แชร์

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯย่าน 2.1 GHz นั้น ก่อนที่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3จี ทั้ง 3 ค่าย จะเปิดให้บริการ 3 จี จะต้องส่งแผนความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility – CSR) มาให้บอร์ด กทค. พิจารณา ซึ่งแผนนี้จะต้องครอบคลุมถึงเรื่องการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจาก ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้แก่ซากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะแบตเตอร์รี่โทรศัพท์ มือถือที่ใช้แล้ว ประกอบไปด้วยสารเคมีที่มีพิษตกค้างยาวนานและสะสมในสิ่งมีชีวิต รวมทั้งยังมีโลหะหนักต่างๆ เช่น ตะกั่ว แคดเมียม ปรอท โครเมียม สารหน่วงการติดไฟ และสารเคมีอันตรายอื่นๆ ซึ่งสารเหล่านี้ ถือว่าเป็นสารอันตราย ถ้าหากไม่มีระบบการจัดการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการก็จะมีการปนเปื้อนลงสู่ดิน แหล่งน้ำ น้ำใต้ดินและในบางกรณีแพร่กระจายขึ้นสู่อากาศ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์โดยตรง โดยสารเหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ และเกิดการสะสมในระดับที่มากเกินควรก็จะก่อให้เกิดภาวะโรคภัยที่เป็นอันตรายรุนแรงโดยการไปทำลายระบบต่างๆในร่างกายของมนุษย์ และอาจพัฒนาไปสู่การเป็นโรคมะเร็งในที่สุด ทั้งนี้ในแผน CSR ยังจะต้องคำนึงถึงสุขภาพของผู้ใช้บริการ รวมไปถึงการจัดทำแผนความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้ความสำคัญในการคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการและเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้บริการกรณีมีการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยี โดยต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้เพื่อให้เทคโนโลยีใหม่และเทคโนโลยีเดิมสามารถใช้งานร่วมกันได้


นอกจากนี้ประกาศ กสทช.ดังกล่าวยังกำหนดให้ค่ายมือถือทั้ง 3 ค่าย จะต้องจัดทำแผนคุ้มครองผู้บริโภค มาให้บอร์ด กทค.พิจารณาก่อนเริ่มให้บริการ 3 จี ซึ่งแผนนี้จะต้องครอบคลุมถึงเรื่องมาตรการการรับเรื่องร้องเรียนโดยไม่มีค่าบริการ มาตรการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสม และกระบวนการทำความเข้าใจกับประชาชนในการตั้งสถานีวิทยุคมนาคม ซึ่งเป็นแผนการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนของผู้ประกอบการ แต่ในส่วนของ กสทช.เองก็ได้ดำเนินการในเชิงรุก เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยได้เพิ่มช่องทางการระงับข้อพิพาททางเลือก โดยออกระเบียบการไกล่เกลี่ยฯ ปรับปรุงกระบวนการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียน รวมทั้งให้ความสำคัญในการกำหนดมาตรการต่างๆเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคอย่างจริงจัง

กรรมการ กสทช. ด้านกฎหมาย ในกิจการโทรคมนาคม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ค่ายมือถือทั้ง 3 ค่ายที่ได้รับใบอนุญาตในการให้บริการ 3 จี ได้ส่งแผนดังกล่าวของแต่ละค่ายมาให้บอร์ด กทค.แล้ว ซึ่งจากการตรวจดู พบว่า แผนดังกล่าวมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน โดยบางบริษัทได้เสนอแผนที่ละเอียดชัดเจนและมีมาตรการที่เห็นเป็นรูปธรรม เช่น แผนการจัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการวางมาตรการลงลึกถึงขั้นการตั้งจุดรับหรือทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่ต่างๆ และกำหนดวิธีการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างชัดเจน รวมทั้งแผนการคุ้มครองผู้บริโภคก็ครอบคลุมและมองเห็นภาพในการปฎิบัติได้เป็นอย่างดี ขณะที่บางบริษัทจัดทำแผนอย่างคร่าวๆและกว้างๆทำให้มีมาตรฐานที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากค่ายมือถือทั้ง 3 ค่าย ที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการ 3 จี ให้ความสำคัญต่อการนำเสนอแผนความรับผิดชอบต่อสังคมและแผนคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความชัดเจนและสามารถนำไปปฎิบัติได้อย่างจริงจัง เพราะถ้าหาก
ไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากอาจถูกมองว่าขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและมิได้คำนึงถึงผู้บริโภคที่ใช้บริการ 3 จี

“ผมเชื่อว่า หากค่ายมือถือที่ให้บริการ 3 จี ในเมืองไทยดำเนินธุรกิจเพื่อตอบแทนสังคมและคุ้มครองผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียของบริษัททุกกลุ่ม จะช่วยลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ การประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการก็จะง่ายขึ้นส่งผลในการสร้างความสุขแก่สังคมไทยในภาพรวม ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ หากทุกค่ายมือถือให้ความสำคัญในการจัดทำและบังคับใช้แผนทั้งสองอย่างจริงจัง” ดร.สุทธิพล กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

ไฮไลท์ข่าวเด่น

อ่าน

แบ่งปันบทความ

มือถือออกใหม่