โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer vision syndrome) หนึ่งในอาการของโรค “ออฟฟิศซินโดรม” (Office syndrome) โรคยอดฮิตในกลุ่มคนวัยทำงาน ที่พบเจอกันมากในปัจจุบัน จากสภาวะสังคมที่มีการแข่งขันสูง ทำให้การทำงานอย่างหนักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อีกทั้งความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ทำให้ผู้คนในปัจจุบัน ใช้คอมพิวเตอร์กันเป็นจำนวนมาก ทั้งยังรวมไปถึงการใช้ แล็บท็อป ไอแพด และสมาร์ทโฟนอีกด้วย ปัจจุบันมีเทคโนโลยี Flicker-free monitor ที่จะช่วยลดอาการปวดตา เพิ่มความสบายตา และทำให้ไม่มีการกระพริบของจอมอนิเตอร์ รวมทั้งคุณสมบัติอื่น เช่น Senseye® Reading Mode การสร้างประสบการณ์การมองจอคอมพิวเตอร์ที่ทำให้เกิดความสบายตาเปรียบเสมือนกับการได้อ่านหนังสือจริงๆ

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีการอธิบาย เกี่ยวกับโรคออฟฟิศซินโดรมไว้ว่า คำว่า “ออฟฟิศซินโดรม” ประกอบด้วยหลายส่วนประกอบ ทั้งกลุ่มอาการในเรื่องของระบบทางเดินหายใจและภูมิแพ้ จากการนั่งทำงานในออฟฟิศที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก จากเครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาด มีฝุ่นค่อนข้างมาก รวมไปถึงสารเคมีจากหมึกของเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องแฟกซ์ และเครื่องพิมพ์เอกสาร ที่วนเวียนอยู่ภายในห้องทำงาน ส่งผลให้บางคนรู้สึกหายใจได้ไม่เต็มที่ หายใจไม่สะดวก อึดอัด และมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคถุงลมโป่งพองได้ หรืออุณหภูมิห้องที่ร้อนหรือเย็นเกินไป ก็ทำให้อาการออฟฟิศซินโดรม ยิ่งชัดเจนขึ้น

แต่ในส่วนของ โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer vision syndrome) หนึ่งในอาการของโรค “ออฟฟิศซินโดรม” (Office syndrome) คือ อาการของคนที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน 2 – 3 ชั่วโมง หรือถึง 6 ชั่วโมงจะทำให้มีอาการ ปวดเมื่อยตา แสบตา ตามัว อาการทางสายตาเหล่านี้เกิดจากการจ้องดูข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ติดต่อ กันเป็นเวลานานเกินไป ทำให้การกระพริบตาน้อยลง จะทำให้ตาแห้ง หรือบางคนก็จะตาแดง และบ่อยครั้งที่จะมีอาการ ปวดศรีษะ ปวดคอ ปวดหลัง ปวดข้อศอก ร่วมด้วยจากการนั่งที่ไม่ถูกต้อง

สำหรับการแก้ไขขั้นต้น ควรพักสายตาทุก 15 นาที ถ้าต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ด้วยการมองออกไปไกลๆ จะทำให้ดวงตาไม่เกิดอาการล้า อย่าขยี้ตา หากรู้สึกอ่อนล้าให้นวดคลึงเบาๆ และควรบริหาร ดวงตาเพื่อคลายความตึงเครียด

ปัจจุบันมีการพัฒนาจอคอมพิวเตอร์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น อย่างระบบ Flicker-free monitor ที่จะช่วยลดอาการปวดตา เพิ่มความสบายตา โดยมี Flicker-free Technology ที่ทำให้ไม่มีการกระพริบของจอมอนิเตอร์ รวมทั้งคุณสมบัติอื่น ที่ประกอบไปด้วย Senseye® Reading Mode การสร้างประสบการณ์การมองจอคอมพิวเตอร์ที่ทำให้เกิดความสบายตาเปรียบเสมือนกับการได้อ่านหนังสือจริงๆ

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.benq.co.th วันที่ : 25 กันยายน 2556
HUAWEI FreeClip 2 หูฟังไร้สาย Clip-On เสียงดีขึ้น เบาขึ้น และคุยสายได้เนียนขึ้น
Samsung เปิดตัว 60W Power Adapter เตรียมการ Galaxy S26 Series และอุปกรณ์อื่นๆ ในปี 2026
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ
realme Watch 5 สมาร์ตวอทช์ดีไซน์คุ้นๆ เหมือนค่ายผลไม้ แต่ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว
HUAWEI FreeBuds Pro 5 หูฟังไร้สาย TWS มาพร้อมชิป Kirin A3 รับรองเสียง Lossless สตีมมิ่ง 4.6Mbps
รีวิว ASUS V500MV พีซีไซส์เล็ก สเปค Core i5 Gen 13 ตอบโจทย์ออฟฟิศยุคใหม่
Xiaomi 17 Ultra มาไวเกินคาด! ลือเปิดตัวสายฟ้าแลบธันวาคมนี้ เผยกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมเทเลโฟโต 200MP
HUAWEI FreeBuds Pro 5 หูฟังไร้สาย TWS มาพร้อมชิป Kirin A3 รับรองเสียง Lossless สตีมมิ่ง 4.6Mbps
realme P4x สมาร์ตโฟนชิปเซ็ต Dimensity 7400 หน้าจอ 144Hz แบตเตอรี่ 7000mAh
หลุดสเปค vivo X300 Ultra แบตฯ อึด 7,000mAh พร้อมกล้องคู่ 200MP จ่อเปิดตัว Q1 2026
vivo X300 Series สัมผัสได้แล้ววันนี้ กับสมาร์ตโฟนกล้องชัด ซูมติดขอบเวที!