สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 20 กันยายน 2557
เมื่อ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่แห่งวงการสมาร์ทโฟนได้เปิดตัวแฟบเล็ตรุ่นท๊อปอย่าง iPhone 6 Plus และ Samsung Galaxy Note 4 ออกมาอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าต้องมีการนำมาเปรียบในเรื่องของคุณสมบัติและความต่างกันในหลายๆ แง่มุม ดังนั้นเราลองไปดูกันว่าแฟบเล็ตรุ่นดังกล่าวมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
เริ่มต้นด้วยดีไซน์
สำหรับ iPhone 6 Plus ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับความโค้งมนทั้งด้านข้างและขอบทั้งสี่ด้าน ตัวเครื่องผลิตจากอลูมิเนียมชุบผิวสแตนเลสสตีลแบบไร้รอยต่อ (Unibody) ซึ่งตัวเครื่องจะมีความบางอยู่ที่ 7.1 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 172 กรัม

ในส่วนของ Samsung Galaxy Note 4 ตัวเครื่องจะมีรูปทรงสี่เหลี่ยม ขอบทั้งสี่ด้านมีความโค้งมน ด้านข้างของตัวเครื่องผลิตจากอลูมิเนียม ฝาหลังใช้วัสดุ Faux Leather ให้ผิวสัมผัสเหมือนหนัง โดยที่ตัวเครื่องบาง 8.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 176 กรัม

หน้าจอแสดงผล
ในเรื่องของหน้าจอ Samsung Galaxy Note 4 จะมีหน้าจอ Super AMOLED ที่ใหญ่กว่าอยู่ที่ 5.7 นิ้ว ความละเอียด QHD-2560 x 1440 พิกเซล พิเศษตรงที่กระจกหน้าจอใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า 2.5D Curved Glass ซึ่งหน้าจอจะมีความโค้งเพียงเล็กน้อย และแข็งแรงทนทาน

ส่วน iPhone 6 Plus จะมาพร้อมหน้าจอ IPS Retina HD display กว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล, ความหนาแน่นพิกเซล 401 PPI ซึ่งกระจกหน้าจอจะโค้งรับกับด้านข้างของตัวเครื่อง ทั้งยังสามารถแสดงผลหน้าจอได้ในแนวนอน (Landscape Mode) โดยที่ก่อนหน้านี้จะทำไม่ได้

หน่วยประมวลผล
iPhone 6 Plus เลือกใช้ชิพ A8 ที่ใช้สถาปัตยกรรม 64 บิต มีความเร็วเพิ่มขึ้น 50 เท่า และประมวลผลกราฟฟิกรวดเร็วกว่า ชิพ A7 ที่มีบน iPhone 5S นอกจากนี้ ยังมีชิพ M8 Motion Coprocessor สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวที่จะวัดกิจกรรมต่างๆ และได้เพิ่ม Barometer สำหรับวัดความดันอากาศเพิ่มเข้ามาใหม่อีกด้วย โดยจะมีหน่วยความจำภายใน 3 ความจุ ได้แก่ 16GB, 64GB และ 128GB

ทางด้าน Samsung Galaxy Note 4 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล 2 แบบ ได้แก่ Snapdragon 805-Quad-Core ความเร็ว 2.7 GHz หรือ Exynos 5433-Octa-Core ความเร็ว 1.9 GHz, RAM 3GB และหน่วยความจำภายใน 32GB
.jpg)
สแกนลายนิ้วมือ
แน่นอนว่าเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมืออาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สำหรับใน Samsung ตระกูล Galaxy Note ตัวนี้จะเป็นตัวแรกที่ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือที่เรียกว่า Finger Scan และทางด้านของ iPhone 6 Plus ก็จะเรียกเทคโนโลยีดังกล่าวว่า Touch ID โดยทั้งคู่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งระบบความปลอดภัยเพื่อยืนยันตัวตนในการปลดล็อคเพื่อใช้งาน


ระบบการเชื่อมต่อ
สำหรับ iPhone 6 Plus ถือเป็นเรื่องฮือฮาที่ได้มีการเพิ่มเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ NFC (Near Field Communication) หรือการเชื่อต่อระยะใกล้เข้ามา มาพร้อมฟังก์ชั่นการโทรผ่าน Wi-Fi, รองรับการเชื่อมต่อ LTE ด้วยความเร็วสูงสุด 150 Mbps,ซึ่งทางด้านของ Samsung Galaxy Note 4สำหรับการเชื่อมต่อ NFC ได้มีมาหลายรุ่น นับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ที่น่าสนใจคือได้เพิ่มการเชื่อมต่อ Fast connect LTE สามารถรับส่งหรือจับสัญญาณเครือข่ายโดยเฉพาะ LTE ได้เร็วขึ้น

กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน หรือแฟบเล็ตสักรุ่น ทางด้าน Samsung Galaxy Note 4 ก็ได้พัฒนากล้องถ่ายรูปหลักขึ้นมาพอสมควร โดยที่กล้องหลังมีระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็ว ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลช LED และเพิ่มระบบ Smart OIS ป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายภาพ นอกจากนี้ กล้องถ่ายรูปด้านหน้ายังมีความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ทำให้ภาพที่ถ่ายในสภาพแสงน้อยมีความสว่างและคมชัดมากขึ้น และที่สำคัญคือรองรับการใช้งานเซลฟี่ที่สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบด้วยเลนส์มุมกว้างถึง 120 องศา


ในด้านของ iPhone 6 Plus จะมาพร้อมเลนส์กล้องถ่ายรูป iSight แบบ 5 ชั้นรุ่นใหม่ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลช True Tone พิกเซลขนาดใหญ่ถึง 1.5 ไมครอน และรูรับแสงขนาด f/2.2 ทั้งยังมีเซ็นเซอร์ใหม่พร้อม Focus Pixels, ระบบตรวจจับใบหน้าที่แม่นยำกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลเข้ามาด้วย

ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ทำให้สามารถรับแสงได้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนถึง 81% พร้อมโหมดถ่ายภาพ Burst Mode สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 10 ภาพ

นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติต่างๆ ที่น่าสนใจของทั้งคู่ที่ต่างฝ่ายต่างไม่มี มาในรูปแบบที่ต่างต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
สิ่งที่มีบน Samsung Galaxy Note 4

สิ่งที่มีบน iPhone 6 Plus

อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ หรือเลือกซื้อแฟบเล็ตแต่ละรุ่นขึ้นอยู่กับความต้องการ รวมไปถึงความเหมาะสมในการการใช้งานของแต่ละบุคคล ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่นโดยอาจจะไม่ได้ตอบสนองความต้องได้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.siamphone.com วันที่ : 20 กันยายน 2557
Samsung Galaxy A07 5G โผล่ทดสอบ Geekbench! ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6300 พร้อมรัน Android 16 ตั้งแต่แ...
Samsung เปิดตัว 60W Power Adapter เตรียมการ Galaxy S26 Series และอุปกรณ์อื่นๆ ในปี 2026
รีวิว Samsung Galaxy S25 FE สมาร์ตโฟนระดับเรือธงในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
Samsung ใจดี! ขยายเวลาโปรโมชัน Galaxy S25 FE พร้อมดาวน์เริ่มต้น 0 บาท ถึง 28 กันยายนนี้
OPPO Reno 15c สมาร์ตโฟนชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 4 กล้องหลัง 3 ตัว Sony LYT-600
Xiaomi 17 Ultra รุ่น Global โผล่ฐานข้อมูล FCC! ยืนยันมาแน่ พร้อม HyperOS 3 และกล้อง Periscope 200MP
สุดยอดสมาร์ตโฟนถ่ายวิดีโอดีที่สุดสำหรับสาย YouTuber ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
Nothing Phone (3a) Lite เริ่มวางขายในไทย ชิปเซ็ต Dimensity 7300 Pro หน้าจอ AMOLED รีเฟรช 120Hz
iQOO 15 ส่งความแรงถึงไทย สมาร์ตโฟนชิปกราฟฟิกแยก Q3 ประสบการณ์ภาพแบบคอนโซล
realme C85 Series 5G ลุยได้ทุกจังหวะชีวิตด้วยแบต 7000mAh ราคาเริ่มต้น 5,xxx
10 สมาร์ตโฟนที่คนค้นหามากที่สุดใน Siamphone อัปเดตเดือนพฤศจิกายน 2025