ขยายการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วย Facebook

Facebook เป็นแพลทฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้คนนับพันล้านคนทั่วโลกที่มีความสนใจที่หลากหลายเข้าด้วยกัน สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแล้ว นี่คือโอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างตรงจุดทั้งในแง่ของความหลากหลายและจำนวน ด้วยเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพ Facebook ยังช่วยเจ้าของธุรกิจสามารถทำการตลาดได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้นและขยายธุรกิจได้อย่างไร้พรมแดน หนึ่งในนั้นคือเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เปรียบเหมือนเครื่องช่วยขยายผลของแคมเปญการตลาดให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในแบรนด์ไทยที่สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือกำหนดกลุ่มเป้าหมายของ Facebook ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้แก่ Pomelo ธุรกิจแฟชั่นสำหรับสุภาพสตรี ซึ่งใช้ฟีเจอร์ของ Facebook ในการตีกรอบกลุ่มผู้รับสารให้แคบลงเพื่อให้มั่นใจว่าโฆษณาของพวกเขาจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเท่านั้น “เราใช้เครื่องมือของ Facebook ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ได้จำกัดอยู่ที่ เพศ หรือ อายุ เท่านั้น แต่ยังเน้นที่ความสนใจของพวกเขา (เช่น แฟชั่นเกาหลี)” คุณวีรธิป ธนาพิสิทธิกุล หรือคุณวิน ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Pomelo อธิบาย “เรามองหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิง และชอบเข้าชมเพจหรือเว็บไซต์เกี่ยวกับแฟชั่นเกาหลี โดยใช้เครื่องมือกำหนดกลุ่มเป้าหมายของ Facebook ในการเข้าถึงพวกเขาได้อย่างแม่นยำ”

“นอกจากนี้ เรายังนำเครื่องมือกำหนดกลุ่มเป้าหมายของ Facebook มาช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” คุณวิน กล่าวเสริม “จากประวัติการซื้อสินค้า เราวิเคราะห์รูปแบบของการซื้อสินค้า จากนั้นจึงโปรโมตโฆษณาที่จะช่วยเติมเต็มความต้องการและความสนใจของลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น เราสังเกตว่าลูกค้าที่ซื้อ Mom jeans ไป มักจะซื้อเสื้อเชิ้ตสีขาวเพื่อนำไปแมทช์กับยีนส์ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราจึงโปรโมตโฆษณาเสื้อเชิ้ตสีขาวไปยังกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อ Mom jeans โดยเฉพาะ”

นอกเหนือจากการระบุกลุ่มเป้าหมายด้วย อายุ เพศ และความสนใจ ยังมีเคล็ดลับแห่งความสำเร็จอื่นๆ ในการใช้เครื่องมือของ Facebook ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย:

• ควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน แต่อย่าลืมว่ายิ่งกลุ่มผู้รับสารกว้างเท่าไร การเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายก็จะเพิ่มตามไปด้วย การทำโฆษณาจะได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อคุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างน้อย 2-3 พันคน
• หากกลุ่มผู้รับสารเป้าหมายมีความเฉพาะเจาะจงมากเกินไป คุณอาจต้องตัดเกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายบางอย่างทิ้งเพื่อเพิ่มขนาดของกลุ่มเป้าหมาย
• หากคุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายจากความสนใจของพวกเขา ลองใช้คีย์เวิร์ดที่หลากหลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึง (เช่น แทนที่จะใช้คำว่า “แมว” เพียงคำเดียว ลองเพิ่มคีย์เวิร์ดอย่าง “ลูกแมว” “ทาสแมว” และ “แมวเหมียว” เป็นต้น)

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมืออื่นๆ ของ Facebook ที่ช่วยให้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายง่ายดายยิ่งขึ้น ได้แก่ Custom Audience และ Lookalike Audience
Custom Audience

Custom Audience ช่วยให้นักโฆษณาค้นหาลูกค้าออฟไลน์ของแบรนด์ซึ่งปะปนอยู่ในเหล่าผู้ใช้งาน Facebook โดย Officemate เอเจนซี่ด้านสื่อดิจิตอลของเครือเซ็นทรัล เป็นหนึ่งในธุรกิจคนไทยที่ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดังกล่าวและค้นพบประสิทธิภาพอันทรงพลังของ Custom Audience

“เราค้นพบและเข้าถึง Facebook ของลูกค้าเซ็นทรัลที่มีอยู่โดยใช้ฐานข้อมูลจาก The One Card (โปรแกรมสมาชิกของเซ็นทรัล)” คุณกมลวรรณ กอไพศาล ผู้อำนวยการการตลาดดิจิตอล บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) กล่าว “เมื่ออัพโหลดอีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าขึ้นบน Facebook ระบบจะทำการค้นหาโปรไฟล์ของผู้ใช้งานที่ระบุข้อมูลที่ตรงกับอีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ที่เราอัพโหลด จากนั้นจะรวบรวมกลุ่มลูกค้านั้นเป็น Custom Audience ของเรา เพียงไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ ก็ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเดิมของเราบนช่องทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ตัวอย่างที่วัดผลได้จริงของ Custom Audience ในการช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ คือแคมเปญของ Officemate ที่ทำให้กับแบรนด์สินค้าในหมวดความงาม โดยแบรนด์ดังกล่าวมีฐานลูกค้าเซ็นทรัลที่แข็งแกร่งเป็นจุดแข็ง Officemate จึงใช้ Custom Audience เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษไปยังกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในฐานข้อมูลเหล่านั้น โดยได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 4 เท่า

Custom Audience สามารถสร้างได้ง่ายๆ ผ่าน MailChimp ผู้ให้บริการอีเมล์มาร์เก็ตติ้งหรือจากการอัพโหลดฐานข้อมูลซึ่งประกอบด้วยชื่อและอีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ในรูปแบบ .CSV ของโปรแกรม Excel หลังจากการอัพโหลดเสร็จสิ้น ระบบจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการสร้างรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Custom Audience ได้ที่ https://www.facebook.com/help/www/381385302004628/

Lookalike Audience

Lookalike Audience เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับนักการตลาด โดยช่วยให้เจ้าของเพจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีแนวโน้มที่จะสนใจในแบรนด์เนื่องจากกลุ่มลูกค้าใหม่นี้มีความคล้ายคลึงกับลูกค้าที่แบรนด์มีอยู่ Facebook สามารถมองหาลักษณะร่วมที่ตรงกันกับกลุ่มเป้าหมายเดิมที่คุณมีอยู่ เช่น ลักษณะทางประชากรศาสตร์และความสนใจ ในกลุ่มผู้ใช้งาน Facebook รายอื่นๆ

“เราพบว่าเครื่องมือ Lookalike Audience มีประโยชน์มากสำหรับการทำแคมเปญ” คุณกมลวรรณกล่าว “จากรายชื่อกลุ่มเป้าหมายแบบ Custom Audience ที่เรามีอยู่ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความภักดีกับแบรนด์สูง เราตัดสินใจขยายการเข้าถึงไปยังกลุ่มคนที่มีความสนใจใกล้เคียงกัน ซึ่ง Lookalike Audience ช่วยให้เราสามารถขยายฐานแฟนเพจได้มากยิ่งขึ้นและส่งสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย”

Lookalike Audience เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แนะนำสำหรับการเพิ่มจำนวนแฟนเพจ สร้างการรู้จักแบรนด์ และเพิ่มยอดขายออฟไลน์ รวมไปถึงสร้างทราฟฟิกสู่เว็บไซต์ของแบรนด์อีกด้วย นักการตลาดสามารถปรับแต่งฟีเจอร์ Lookalike Audience ได้โดยการตั้งค่า Greater Reach และ Similarity เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lookalike Audience ได้ที่ https://www.facebook.com/help/www/231114077092092/

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  vivo เตรียมส่งสมาร์ตโฟน V60 Lite ถึงมือผู้ใช้งานชาวไทยแบบ ‘ไม่กั๊ก’ 18 ต.ค. นี้
• 
  OpenAI ประกาศเปิดตัว ChatGPT Go อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่