ใกล้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในบ้านเราเข้าไปทุกทีแล้ว สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus วันที่ 21 ตุลาคมศกนี้ก็สามารถจับจองได้ โดยสามค่ายหลักโอเปอเรเตอร์บ้านเรา ก็มีประกาศเปิดจองแล้ว (อ่านข่าว) อย่างไรก็ตามหลังจากบทความที่แล้วนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ : มาดู 10 เหตุผลที่ควรซื้อ Google Pixel & Google Pixel XL มากกว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus คราวนี้ก็มาดูส่วนตรงข้ามกันบ้าง เผื่อใครกำลังชั่งใจอยากจะจับจองสองรุ่นนี้จากสองแบรนด์เป็นเจ้าของ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ลองมาฟังเหตุผลกันดูครับแล้วตัดสินใจจากไฟล์สไตล์การใช้งาน และความชื่นชอบ มาเริ่มกันเลย

1. iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีความบางกว่า : ถ้ามองผิวเผินอาจไม่รู้ก็ได้เนื่องจากมีขนาดตัวเครื่องและนํ้าหนักที่ใกล้เคียงกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
| iPhone 7 | Google Pixel | iPhone 7 Plus | Google Pixel XL | |
| ขนาดตัวเครื่อง | 138.3 × 67.1 × 7.1 มม. | 143.8 × 69.5 × 8.5 มม. | 158.2 × 77.9 × 7.3 มม. | 154.7 × 75.7 × 8.5 มม. |
| นํ้าหนัก | 138 กรัม | 143 กรัม | 188 กรัม | 168 กรัม |
2. อะลูมิเนียมก็อะลูมิเนียม ไม่ใช่ลูกครึ่ง : หลายคนอาจสงสัยทำไมผมบอกลูกครึ่ง ก็เพราะว่าคู่หู Pixel มีตัวเครื่องด้านหลังที่ทำจากโลหะครึ่งล่าง ส่วนครึ่งบนเป็นโลหะเช่นกันแต่ครอบทับด้วยกระจกอีกทีหนึ่ง งานนี้คงต้องตัดสินจากความชื่นชอบหรือมุมมองของแต่ละคนกันไป ทว่าเหตุผลที่ Google ออกแบบดีไซน์ลักษณะนี้ คือ ต้องการสร้างความแตกต่าง เนื่องจากปัจจุบันสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่เป็นโลหะกันหมด หรือไม่ก็ครอบทับด้วยกระจกทั้งหมดเหมือนแบรนด์เกาหลีใต้ แต่ยังไม่มีใครทำแบบนี้


3. คุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่น : อย่างที่รู้กันว่าพี่น้อง iPhone จะมีมาตรฐานระดับ IP67 สามารถกันฝุ่นรวมถึงนํ้าที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ระยะเวลาไม่เกิน 30 นาทีได้ แต่ Apple ระบุแล้วว่าจะไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันหากเกิดความเสียหายจากของเหลว
ทว่าด้าน Google ไม่สามารถกันนํ้ากันฝุ่นได้ดีเท่าฝั่งแอปเปิ้ล เพราะแค่ระดับมาตรฐาน IP53 เท่านั้น หมายความว่า ฝุ่นกันได้บ้างแต่ไม่ทั้งหมด ส่วนนํ้าจะเป็นรูปแบบสาดกระเด็นเพียงเล็กน้อย ทางที่ดีก็ไม่ควรให้โดนนํ้าดีกว่า เนื่องจากระดับ 3 นั้นคาดเดายาก เพราะว่ามีเรื่องของทิศทางเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่เหมือนกับเลข 6 - 7 ที่โดนนํ้าแบบเต็มที่ได้

4. ฟังก์ชั่นการใช้งานของเมนูที่มากกว่า : ด้วยระบบ 3D Touch ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับปุ่ม Home สามารถรับรู้แรงกดได้ แน่นอนว่ามีลูกเล่นเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่จำเจ

5. การอัปเดตระบบปฏิบัติการ : แอปเปิ้ลขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องการปล่อย OS เวอร์ชั่นใหม่ให้แต่รุ่นใดจะดาวน์โหลดได้บ้าง ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รุ่นนั้นๆ ทว่ามาถึงตอนนี้ก็เดินทางมาสู่ iOS 10 แล้ว โดยรุ่นก่อนหน้าที่อัปเดตได้คือ iPhone 5 ที่มาพร้อมกับ iOS 6 นั่นหมายความว่าซื้อ 1 ครั้ง แต่ใช้งานเวอร์ชั่นใหม่ได้ถึง 4 ครั้งเลยทีเดียว (iOS 7 - 8 - 9 - 10) ทว่า....
ฝั่ง Google ระบุชัดเลยครับ สองพี่น้อง Pixel กับ Pixel XL นั้นจะได้รับการอัปเดต OS แค่ 2 ปีเท่านั้น แพทช์ความปลอดภัยระยะเวลา 3 ปี (Two years of OS upgrade from launch & Three years of security updates from launch) ดังนั้นอาจทำให้ต้องพิจารณาอีกครั้งเมื่อต้องจ่ายเงินสองหมื่นกว่าบาท เนื่องจากราคาเปิดตัวของ iPhone 7 และ Google Pixel โมเดล 32GB มีราคาเท่ากันคือ..

6. คุณสมบัติของกล้องแตกต่างกัน : ถ้ากล่าวถึงรุ่นใหญ่ทั้ง XL และ Plus ก็ไม่เหมือนตรงที่ฝั่งแอปเปิ้ลมาพร้อมกับ Dual Camera นอกจากนี้ระบบกันสั่นและรูรับแสงอีกด้วย ซึ่งของกูเกิ้ลนั้นเลือกใช้ระบบกันสั่นแบบซอฟต์แวร์ Electronic Image Stabilization หรือ EIS ทว่าแอปเปิ้ลก็มาพร้อมระบบกันสั่นแบบฮาร์ดแวร์ (OIS) ดังนั้นมุมมองที่มีการทำงานโดยเฉพาะย่อมให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า
7. ขณะที่รูรับแสง Apple ทำได้ดีกว่า โดยกล้องหลังมีรูรับแสงกว้าง f/1.8 ส่วน Google คือ f/2.0

8. Snapdragon 821 ก็ต้องแพ้ให้กับ Apple A10 Fusion : เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Antutu ได้ประกาศ 10 อันดับสมาร์ทโฟนที่เร็วแรงที่สุดพบว่า iPhone 7 Plus ครองอันดับหนึ่ง แซงหน้าแบรนด์ LeEco Le Pro 3 ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตดังกล่าวกับแรมมากถึง 4/6GB (ไม่แน่ใช้โมเดลใดทดสอบ แต่ก็มีแรมมากกว่า iPhone 7 Plus อยู่ดี) สอดคล้องกับ Geekbench 4 สองพี่น้อง iPhone ก็สามารถทำคะแนนแซงได้อีก

9. ศูนย์บริการ : ต้องบอกว่าฝั่ง Apple ก็มีตัวแทนให้บริการอยู่หลายจังหวัดในประเทศไทย ดังนั้นถ้ามีปัญหาใดๆ สามารถเข้าศูนย์เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไปได้ ขณะที่ฝั่ง Google ไม่มีตัวแทนใด ณ ตอนนี้ หมายความว่าเมื่อเกิดปัญหาเกิดความยุ่งยากแน่นอน

10. ขายคล่องและราคาดีกว่า : ขายคล่องในที่นี้หมายถึง การขายต่อให้กับผู้อื่น ยิ่งเป็นสองพี่น้อง iPhone 7 & iPhone 7 Plus กำลังเป็นกระแส แน่นอนว่าก็ได้ราคาดีด้วยเช่นกัน ทว่าฝั่ง Google อาจขายยากหน่อย เพราะไม่ใช่รุ่นตลาดรวมถึงปัจจัยต่างๆ

จบลงแล้วครับสำหรับการเล่าสู่กันฟัง หวังว่าจะทำให้ใครที่กำลังมองสองรุ่นนี้อยู่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก็สรุปไว้ให้หมดแล้ว ฝั่งละ 10 เหตุผล โดย iPhone จับจองเป็นเจ้าของได้วันที่ 21 ตุลาคมศกนี้ขณะที่ด้าน Google ประกาศวางจำหน่ายวันที่ 20 ตุลาคมบางประเทศ และประเทศอื่นๆ ภายหลัง
อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง : บทสรุปทุกเรื่องราวของ iPhone 7 กับ iPhone 7 Plus และ iOS 10 สงสัยอะไรที่นี่มีคำตอบ
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 8 ตุลาคม 2559
OPPO Reno 15c สมาร์ตโฟนชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 4 กล้องหลัง 3 ตัว Sony LYT-600
Xiaomi 17 Ultra รุ่น Global โผล่ฐานข้อมูล FCC! ยืนยันมาแน่ พร้อม HyperOS 3 และกล้อง Periscope 200MP
Samsung เปิดตัว 60W Power Adapter เตรียมการ Galaxy S26 Series และอุปกรณ์อื่นๆ ในปี 2026
realme เปิดแคมเปญส่งท้ายปี real Festive Deals – Year End Sale จัดโปรแรงส่งท้ายปี
OPPO Find X9 Pro เรือธงกล้องเทพ Hasselblad ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9500 ความสว่างหน้าจอ 3600ni...
Nothing เปิดตัว Phone (3a) Community Edition สมาร์ตโฟนที่ออกแบบโดยคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานจริง
realme C85 Series 5G ลุยได้ทุกจังหวะชีวิตด้วยแบต 7000mAh ราคาเริ่มต้น 5,xxx
HONOR GT 2 Series ผ่านรับรอง 3C แล้ว! ยืนยันชาร์จไว 100W ลือแบตฯ 10,000mAh
Nothing Phone (3a) Lite เริ่มวางขายในไทย ชิปเซ็ต Dimensity 7300 Pro หน้าจอ AMOLED รีเฟรช 120Hz
Redmi Note 15 Pro อาจมีรุ่น 4G ให้เลือก คาดใช้ชิป Helio G200 Ultra กล้องหลัง 200MP