ก็กลายเป็นเรื่องใหม่ของวงการสมาร์ทโฟนอีกแล้ว สำหรับดีไวซ์ที่ปราศจากการมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร โดยเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา (คืนวันที่ 10 มิ.ย.) บริษัท Motorola ภายใต้การดูแลของแบรนด์ Lenovo สร้างเซอร์ไพร์สด้วยการเปิดตัวสองรุ่นใหม่ ที่เลือกใช้ USB Type-C ในการชาร์จแบตเตอรี่และการฟังเพลงด้วยหูฟัง นั่นหมายความว่าเราจะต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งไม่สามารถทำพร้อมกันได้เหมือนเดิมแล้วเพราะฉะนั้นมาลองแชร์ความคิดเห็นกันครับว่า "ยังจำเป็นอีกหรือไม่สำหรับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม." ....?


ดังนั้นเรามาดูกันหน่อยครับว่าทำไมหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรถึงต้องหมดยุค
เนื่องจากสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ดิจิตอล ทว่าเสียงที่ออกมาจากหูฟังส่วนใหญ่ก็ยังเป็นระบบอนาล็อก เพราะฉะนั้นภายในสมาร์ทโฟน จึงจะมีตัวแปลงสัญญาณจากดิจิตอลมาเป็นอนาล็อก หรือ Digital-to-Analog Converter (DAC) รวมถึงเครื่องขยายเสียงทำงานร่วมกัน เพื่อขับเสียงให้กับผู้ฟังผ่านลำโพงหรือหูฟัง และด้วยข้อจำกัดดังกล่าวจึงนำ USB Type-C มาแก้ปัญหา
และก็เชื่อว่ายังมีใครหลายคนสงสัย ว่าทำไมเพลงเพลงเดียวกัน แต่เสียงที่ได้ยินออกมาถึงมีความไพ เราะไม่เหมือนกัน นั่นเป็นเพราะสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์จะมีชิปเซ็ตไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ทำให้พลังเสียงแต่ละท่วงทำนองจะแตกต่างกันตามคุณภาพของอุปกรณ์ภาย ใน ดังนั้นหลายคนจึงตั้งคำถามว่า "รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ตเสียงอะไรครับเนื่องจากเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เสียงน่าฟัง"
นอกจากนี้การไม่มีช่องเสียบหูฟัง จะทำให้แต่ละแบรนด์สามารถผลิตสมาร์ทโฟนได้บางลงอีก รวมถึงมีพื้นที่ว่างภายในมากขึ้น ทำให้นำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใดๆ มาใส่แทนที่เพื่อสร้างจุดขายเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งเช่นเดียวกับการนำลูกเล่นต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับเหล่าอุปกรณ์เสริมที่อนาคตจะมีบทบาทมากขึ้น อีกทั้งพอร์ตเชื่อมต่อที่เดียวก็เพียงพอ โดยใช้ทั้งชาร์จและใช้เพื่อความบันเทิง

อย่างที่บอกเหตุผลก่อนหน้านี้ "เรื่องราวของอุปกรณ์เสริม" การใช้งานสมาร์ทโฟนให้มีประสิทธิภาพคุ้มค่าก็จะต้องมีการนำอุปกรณ์เสริมทั้งหลาย ดังนั้นเมื่อพอร์ต USB Type-C สามารถทำได้ครอบจักร วาล และท่าทีในอนาคตคาดว่าจะแทนที่ MicroUSB 2.0 แน่นอนรวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ย่อมเกิดขึ้น เพื่อสร้างทางเลือกหรือจุดขายของตนเอง และที่สำคัญ Make Money...

เหตุผลสุดท้ายคือ ต้องเสียพื้นที่ให้กับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถพัฒนา หรือทำอะไรได้มากกว่านี้อีก ที่สำคัญคือมันล้าหลัง เนื่องจากเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมไปไกลเกินกว่าจะมาพัฒนาแล้ว

แล้วการฟังเพลงด้วยหูฟังพอร์ต USB Typc-C มีข้อดีกว่าการฟังแบบเดิมๆ อย่างไร

ข้อเสียคืออะไร ทำไมไม่ควรให้ Headphone USB Type-C มาแทนที่หูฟัง 3.5 มม.

เรียกได้ว่า USB Type-C เริ่มได้รับความนิยมจากหลายแบรนด์ และในอนาคตจะต้องหมดยุค Micro USB 2.0 อย่างแน่นอน นอกจากนี้การมาของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อดังกล่าวยังจะต้องส่งผลไปต่ออุปกรณ์อื่นๆ ด้วย อาทิ เครื่องเสียง, อุปกรณ์ภายในรถยนต์, ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เป็นต้น ให้มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยนั่นหมายความว่าอาจมีการพัฒนาฟังก์ชั่นใหม่ๆ เข้ามาผสมผสานการทำ งานร่วมกันให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แล้วคนอื่นคิดว่ายังไงกันบ้างครับ อยากให้ใช้ USB Type-C กันเป็นมาตร ฐานสากลได้แล้ว หรือควรจะมีช่องเสียบ 3.5 มม. เหมือนเดิม
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 11 มิถุนายน 2559
Redmi Note 15 Series หลุดทั้งภาพ และข้อมูลสเปคก่อนเปิดตัวแบบ Global
vivo Y31 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นทนทานยันแบตเตอรี่ เริ่มวางขายในประเทศไทย
Nothing Phone (3a) Lite เริ่มวางขายในไทย ชิปเซ็ต Dimensity 7300 Pro หน้าจอ AMOLED รีเฟรช 120Hz
Nubia Fold สมาร์ตโฟนจอพับ ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite กล้องหลัง 3 ตัว 50MP
Nubia V80 Design ได้หน้าจอกว้างขึ้น 6.75 นิ้ว และเพิ่ม Dynamic RAM ได้สูงสุด 20GB
OnePlus Ace 6T ประเดิมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 5 แบตเตอรี่ใหญ่มาก 8300mAh
Redmi Note 15 Series หลุดทั้งภาพ และข้อมูลสเปคก่อนเปิดตัวแบบ Global9 ชั่วโมงที่แล้ว