ซอฟต์แวร์ (Software) | วันที่ : 18 พฤษภาคม 2560
ที่งาน Google I/O 2017 มีการเผยความคืบหน้าของการพัฒนาแพลตฟอร์ม Android O โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทดสอบ Android O : Developer Preview 2 ซึ่งนักพัฒนาสามารถดูรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ https://developer.android.com

แพลตฟอร์ม Android O ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อเรียกที่จะใช้ในทางการตลาด และจนถึงขณะนี้มีการยืนยันโปรเจคที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น Android Go โครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้อุปกรณ์ที่มีสเปกระดับล่างใช้งานได้ลื่นไหลขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวจะถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งในแพลตฟอร์ม Android O

นอกจากนี้ใน Android O จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาให้ใช้งาน โดยภายในงานมีการนำเสนอฟีเจอร์บางส่วนที่น่าสนใจดังนี้
Picture-in-picture : ช่วยให้ผู้ใช้เปิดสองหน้าจอได้พร้อมกัน เช่น รับชมวิดีโอขณะโทรหาเพื่อน ตรวจสอบตารางนัดหมายในปฏิทินขณะชมวิดีโอทำอาหาร เป็นต้น โดยสามารถใช้งานได้จากอุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอแตกต่างกันด้วย

Notification dots : เพิ่มจุดการแจ้งเตือนบนไอคอน เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้ว่ามีกิจกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นภายในแอพ สามารถแยกแยะสีของจุดการแจ้งเตือนเพื่อระบุการทำงานที่แตกต่างกันได้
.gif)
Autofill with Google : ฟีเจอร์ป้อนข้อมูลอัตโนมัติเพื่อลดความยุ่งยากในการตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่และการซิงค์รหัสผ่านต่าง ๆ โดยนำฟีเจอร์เติมข้อมูลอัตโนมัติใน Chrome มาใช้บน Android

A new homescreen for Android TV : หน้าจอหลักแบบใหม่สำหรับ Android TV ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา ดูตัวอย่างและชมเนื้อหาภายในแอพได้ง่ายขึ้น

Smart Text Selection : ใน Android O มีการนำการเรียนรู้ด้วยตัวเองของเครื่องจักรมาใช้กับการคัดลอก / วาง ข้อความ โดยระบบจะรู้ว่าข้อความที่คัดลอกเป็นข้อความประเภทใด เช่น ที่อยู่ เว็บไซต์ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้คัดลอก / วางข้อความโดยมีตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับข้อความขึ้นมาให้ใช้งานอย่างเหมาะสม

TensorFlow Lite : นำเอาความสามารถของการเรียนรู้ด้วยตนเองของเครื่องจักรมาปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีขึ้น TensorFlow Lite เป็นโครงการที่มีพื้นฐานมาจาก TensorFlow (ไลบราลี่การเรียนรู้ด้วยตนเองของเครื่องจักร) ซึ่งออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด เร็วและเหมาะต่อการนำไปใช้งานเฉพาะทาง สามารถนำไปใช้ประโยชน์เพื่อเร่งประสิทธิภาพการคำนวณ

Working on the Vitals in Android
Android Vitals เป็นโครงการที่เกิดขึ้นเนื่องจาก Google เห็นความสำคัญว่าโครงสร้างพื้นฐานของ Android อยู่ในจุดวิกฤต ดังนั้นโครงการนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อมุ่งเน้นเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ลดเวลาในการโหลดข้อมูล ลดเวลาในการแสดงผลกราฟิกและเพิ่มความเสถียร โดยโครงการดังกล่าวยังอยู่ในการพัฒนา ล่าสุดมีการนำเสนอผลงานบางชิ้นที่ได้ทำไปแล้วพร้อมกับนำเสนอเครื่องมือใหม่เพื่อช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์เข้าใจถึงประสิทธิภาพการทำงานและปัญหาด้านความน่าเชื่อถือในแอพของตัวเองซึ่งประกอบด้วยส่วนหลัก 3 ส่วน ดังนี้

System optimizations : ใน Android O มีการปรับแต่งระบบหลายส่วนเพื่อให้แอพทำงานได้เร็วและราบรื่นขึ้น

Background limits : สร้างขอบเขตใหม่สำหรับการสแกนหา Wi-Fi และตำแหน่งที่ตั้งผ่านการทำงานเบื้องหลังเพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานจริง เพิ่มอายุการใช้แบตเตอรี่และเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำที่เหลือ
New Android Vitals Dashboards in the Play Console : เพิ่มเครื่องมือพร้อมแผงควบคุมจำนวน 6 ชุด เพื่อช่วยนักพัฒนาระบุปัญหาที่พบบ่อยในแอพ

Android Go
ภารกิจส่วนหนึ่งของ Android คือการส่งมอบคอมพิวเตอร์ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ ซึ่งมีตัวเลขผู้ใช้งาน Android ที่ออนไลน์ (active devices) อยู่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภายหลังจากที่สมาร์ทโฟนระดับล่างขยับราคาลงและผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ล่าสุด Google ก็ได้เพิ่มโปรเจค Android Go เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งานอุปกรณ์ Android ที่มี RAM 1GB หรือน้อยกว่านั้นให้สามารถรับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นโดยมี 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

OS : เพิ่มประสิทธิภาพ Android O ให้ทำงานได้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพเมื่อใช้งานบนอุปกรณ์ระดับล่าง (entry-level devices)

Apps : ออกแบบแอพตระกูล Google ที่ใช้หน่วยความจำ พื้นที่เก็บข้อมูลและดาต้าน้อยลง โดยแอพเหล่านี้ได้แก่ Youtube Go, Chrome, Gboard

Play : ในอุปกรณ์ระดับล่าง Play Store จะแนะนำแอพที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์นี้เป็นลำดับแรก ๆ เช่น แอพที่ใช้หน่วยความจำ พื้นที่เก็บข้อมูลน้อยกว่าแอพคู่แข่งก็จะขึ้นมาแสดงผลเป็นลำดับต้น ๆ

Google คาดว่า Android Go จะพร้อมใช้งานบนอุปกรณ์ Android ทุกรุ่นที่มี RAM 1GB หรือน้อยกว่านั้นภายในปี ค.ศ. 2018

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : android-developers.googleblog.com วันที่ : 18 พฤษภาคม 2560
OnePlus 15R และ OnePlus Pad Go 2 ประกาศวันเปิดตัว พร้อมบอกสเปคบ้างส่วนบนหน้าเว็บไซต์
Redmi Note 15 Pro อาจมีรุ่น 4G ให้เลือก คาดใช้ชิป Helio G200 Ultra กล้องหลัง 200MP
รีวิว iPad Pro M5 เพิ่มความแรงอีกขั้นกับชิป M5 ใครเครื่องเดิมอยู่ดีๆ เริ่มช้า ต้องเปลี่ยน
Redmi Note 15 Series หลุดทั้งภาพ และข้อมูลสเปคก่อนเปิดตัวแบบ Global
vivo Y31 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นทนทานยันแบตเตอรี่ เริ่มวางขายในประเทศไทย
Nothing Phone (3a) Lite เริ่มวางขายในไทย ชิปเซ็ต Dimensity 7300 Pro หน้าจอ AMOLED รีเฟรช 120Hz