Samsung Galaxy S25 Edge เปิดตัวแบบบางเฉียบ กับตัวเลขความบาง 5.8 มิลลิเมตร

Samsung Galaxy S25 Edge สมาร์ทโฟนจุดขายที่ความบาง ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในแบบ Global โดยเน้นไปที่ความบางของตัวเครื่อง ด้วยขนาด 5.3 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนัก 163 กรัม แต่ด้วยความบางขนาดนี้ทำให้แบตเตอรี่จะมีขนาดเล็กลงเหลือเพียง 3900mAh รองรับชาร์จเร็วผ่านสาย 25W ทาง Samsung โฆษณาไว้ว่า ใช้เวลา 30 นาที ได้แบตเตอรี่กลับมา 55% ส่วนดีไซน์จะคล้ายๆ กับ Galaxy S25 Series ในรุ่นอื่นๆ ที่เป็นแบบทรงกล่องขอบเรียบ

ด้านหน้าจอแสดงผลได้พาแนล Dynamic AMOLED 2x กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ อัตรา Refresh Rate แบบ LTPO ตั้งแต่ 1 - 120Hz และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Ceramic 2 ทั้งนี้ชิปเซ็ตยังได้ตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Elite ทำงานร่วมกับ RAM 12GB และ ROM 256GB / 512GB ระบบปฏิบัติการ OneUI 7.0 บนพื้นฐาน Android 15 รองรับการใช้งาน Galaxy AI ทั้งหมด

สเปคกล้องหลังติดตั้งมา 2 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก ความละเอียด 200MP รูรับแสง f/1.7 กันสั่น OIS รองรับการซูมแบบ Optical 2 เท่า ต่อมาเป็นกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2 มีทั้ง Autofocus และ Macro ในขณะที่กล้องหน้า ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2 แน่นอนว่ากล้องมีการทำงานร่วมกับ AI เช่นกัน ช่วยในการถ่ายภาพ และ Edit ภาพในภายหลัง ทั้งนี้ฝาหลังมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2

สเปคของ Samsung Galaxy S25 Edge

• ขนาดตัวเครื่อง : 158.2x75.6x5.8 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 163 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : Dynamic AMOLED 2x กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ อัตรา Refresh Rate แบบ LTPO ตั้งแต่ 1 - 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 2600nits และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Ceramic 2
• ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 8 Elite
• RAM : 12GB
• ROM : 256GB / 512GB
• ระบบปฏิบัติการ : OneUI 7.0 บนพื้นฐาน Android 15
• กล้องหลัง 2 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED
  - กล้องหลัก ความละเอียด 200MP รูรับแสง f/1.7 กันสั่น OIS
  - กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2
• กล้องหน้า ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2
• เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G
• มาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำ : IP68
• แบตเตอรี่ : ขนาด 3900mAh รองรับชาร์จเร็วผ่านสาย 25W และรองรับชาร์จไร้สาย

เบื้องต้น Samsung Galaxy S25 Edge มีการเปิดตัว และให้พรีออเดอร์แบบ Global (แต่ยังไม่มีในประเทศไทย) โดยมีให้เลือก 3 สีคือ Titanium Silver, Titanium Icyblue และ Titanium Jetblack สนนราคาช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 1,099.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 36,500 บาท สุดท้ายการขายในประเทศไทยอาจจะต้องรอนิดหน่อย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  13 สมาร์ตโฟน 5G รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2025
• 
  รีวิว realme 14 5G สมาร์ตโฟน Performance Dominator แห่งปี พร้อมฟีเจอร์ AI และสเปคแบบจัดเต็ม

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่