เปิดตัว Xiaomi 17 Series อัปเกรดครั้งใหญ่ สเปคจัดเต็ม กล้องระดับโปร

สิ้นสุดการรอคอย Xiaomi สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการสมาร์ตโฟนอีกครั้งในงานแถลงข่าวประจำปีของ Lei Jun ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติปักกิ่ง โดยได้เปิดตัว Xiaomi 17 Series อย่างเป็นทางการ พร้อมทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง Xiaomi Pad 8 Series และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกมากมาย ภายใต้แนวคิด "Human x Car x Home" ที่จะมายกระดับ Ecosystem อัจฉริยะไปอีกขั้น

Xiaomi 17 Series เปิดตัวมาพร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 17, Xiaomi 17 Pro, และ Xiaomi 17 Pro Max ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ คือนี่อาจเป็นสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดแห่งปี

Xiaomi 17: เรือธงไซส์กะทัดรัด อัปเกรดจัดเต็มทุกมิติ

สำหรับใครที่ชอบสมาร์ตโฟนเรือธงขนาดพอดีมือ Xiaomi 17 คือคำตอบ มาพร้อมหน้าจอ 6.3 นิ้ว ดีไซน์ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 8.06 มม. และน้ำหนักแค่ 191 กรัม แต่สเปคภายในนั้นไม่ธรรมดาเลย

• ดีไซน์ใหม่หมดจด: ตัวเครื่องออกแบบขอบมุมโค้งมนเป็นพิเศษในสไตล์ super-elliptical ทำให้จับถือได้สบายมือยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือดีไซน์จอด้านบนแบบ hole-free ไร้รูรบกวนสายตา มอบประสบการณ์การมองจอที่เต็มตาอย่างแท้จริง
• ขุมพลังเรือธงรุ่นล่าสุด: ประเดิมใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite Gen 5 Mobile Platform เป็นรุ่นแรกของโลก รับประกันความแรงและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น
• หน้าจอที่สว่างที่สุด: ใช้พาเนล M10 Display Panel และวัสดุเปล่งแสง SuperRED ทำให้ได้หน้าจอที่สว่างสูงสุดถึง 3500nits สู้แสงแดดจ้าได้สบายๆ พร้อมขอบจอบางเฉียบเพียง 1.18 มม.
• กล้อง Leica Summilux ระดับโปร: กล้องหลักใช้เซนเซอร์ Light Fusion 950 ความละเอียด 50MP ƒ/1.67 พร้อม OIS จับคู่กับเลนส์เทเลโฟโต้ Leica 60mm ที่สามารถถ่ายวัตถุระยะใกล้ได้ถึง 10 ซม. พร้อมโหมด Master Portrait ใหม่ที่ให้สีผิวเป็นธรรมชาติและเก็บรายละเอียดเส้นผมได้อย่างน่าทึ่ง
• แบตเตอรี่สะเทือนวงการ: นี่คือไฮไลท์เด็ด Xiaomi 17 มาพร้อมแบตเตอรี่ Xiaomi Surge Battery ความจุสูงถึง 7000mAh ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนจอ 6.3 นิ้ว ณ ปัจจุบัน รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 100W และไร้สาย 50W
• การเชื่อมต่อระดับโลก: รองรับเครือข่ายครอบคลุมกว่า 210 ประเทศและภูมิภาค พร้อมพอร์ต USB 3.2 Gen 1 สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง

การที่ Xiaomi สามารถใส่แบตเตอรี่ 7000mAh ลงในสมาร์ตโฟนขนาดกะทัดรัดได้ ถือเป็นการทำลายข้อจำกัดเดิมๆ ของวงการสมาร์ตโฟน และอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผู้ผลิตค่ายอื่นต้องหันมาให้ความสำคัญกับความจุแบตเตอรี่ในสมาร์ตโฟนไซส์เล็กมากขึ้น

Xiaomi 17 Pro และ 17 Pro Max: ปฏิวัติวงการด้วย Dynamic Back Display จอด้านหลังอัจฉริยะ

ยกระดับความพรีเมียมไปอีกขั้นด้วย Xiaomi 17 Pro และ 17 Pro Max ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำอย่าง Dynamic Back Display หรือหน้าจอที่สองบริเวณฝาหลัง ซึ่งไม่ได้มีไว้แค่โชว์เท่ๆ แต่ใช้งานได้จริงและหลากหลายสุดๆ

• จอหลังทำอะไรได้บ้าง?
  • ตั้งเป็นหน้าปัดนาฬิกาสุดเก๋
  • สร้าง AI Wallpaper จากรูปสัตว์เลี้ยงหรือรูปคน
  • เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดิจิทัลรุ่นที่ 3 "Pangda" ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานได้
  • แสดงการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เช่น สถานะเที่ยวบิน, การจัดส่งอาหาร
  • ใช้เป็นหน้าจอพรีวิวสำหรับถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลัก
• กล้องระดับภาพยนตร์: ทั้งสองรุ่นใช้ระบบกล้อง Leica Summilux พร้อมเทคโนโลยี LOFIC High Dynamic Technology ที่เก็บไดนามิกเรนจ์ได้กว้างถึง 16.5EV เทียบเท่ากล้องโปร และกระจกเลนส์แบบ 1G+6P (กระจก 1 ชิ้น + พลาสติก 6 ชิ้น) เพื่อภาพที่คมชัดสูงสุด
  • Xiaomi 17 Pro: มาพร้อมเลนส์เทเลโฟโต้ที่ถ่ายมาโครได้ใกล้สุด 20 ซม.
  • Xiaomi 17 Pro Max: อัปเกรดไปอีกขั้นด้วยเลนส์ Periscope Telephoto 5x ที่มีเซนเซอร์ใหญ่ขึ้นและรับแสงได้ดีขึ้น 30% พร้อมกระจกหน้าจอ Xiaomi Shield Glass 3.0 ที่แข็งแกร่งทนทาน
• แบตเตอรี่สุดอึด: ด้วยการออกแบบแบตเตอรี่แบบ L-shaped ทำให้ Xiaomi 17 Pro มีความจุ 6300mAh และ Xiaomi 17 Pro Max มีความจุสูงถึง 7500mAh
• Ecosystem เต็มรูปแบบ: รองรับ UWB Smart Car Key ใช้สมาร์ตโฟนปลดล็อกรถยนต์ได้ และเมื่อพับจอหลักลง จะเข้าสู่ Handheld-Console Mode เปลี่ยนสมาร์ตโฟนให้กลายเป็นเครื่องเกมพกพาเมื่อเชื่อมต่อกับเคสเสริมผ่าน Bluetooth

การมาของ Dynamic Back Display อาจเป็นการจุดประกายเทรนด์ใหม่ให้กับวงการสมาร์ตโฟน ทำให้ฝาหลังไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่าอีกต่อไป แต่กลายเป็นพื้นที่สำหรับความคิดสร้างสรรค์และฟังก์ชันการใช้งานที่ชาญฉลาด นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามองอย่างแท้จริง

การแข่งขันในตลาดเรือธง

การมาถึงของ Xiaomi 17 Series พร้อมชิปฯ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ถือเป็นการประกาศสงครามกับคู่แข่งในตลาดเรือธงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น iPhone รุ่นใหม่ หรือ Samsung Galaxy S Series จุดแข็งที่น่าจะทำให้ Xiaomi ได้เปรียบคู่แข่งคือ ความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาแบบไม่กั๊ก ทั้งในรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ รวมถึงนวัตกรรม Dynamic Back Display ที่สร้างความแตกต่างและประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะโดนใจผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน และคู่แข่งจะมีการปรับตัวเพื่อมารับมือศึกครั้งนี้อย่างไร

ราคาและการวางจำหน่าย

Xiaomi 17 Series วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์และร้านค้าอย่างเป็นทางการของ Xiaomi โดยมีราคา (ในประเทศจีน) ดังนี้ (ราคาไทยอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

• Xiaomi 17:
  • 12GB+256GB: 4,499 หยวน (ประมาณ 22,xxx บาท)
  • 12GB+512GB: 4,799 หยวน (ประมาณ 24,xxx บาท)
  • 16GB+512GB: 4,999 หยวน (ประมาณ 25,xxx บาท)
• Xiaomi 17 Pro:
  • 12GB+256GB: 4,999 หยวน (ประมาณ 25,xxx บาท)
  • 12GB+512GB: 5,299 หยวน (ประมาณ 26,xxx บาท)
  • 16GB+512GB: 5,599 หยวน (ประมาณ 28,xxx บาท)
  • 16GB+1TB: 5,999 หยวน (ประมาณ 30,xxx บาท)
• Xiaomi 17 Pro Max:
  • 12GB+512GB: 5,999 หยวน (ประมาณ 30,xxx บาท)
  • 16GB+512GB: 6,299 หยวน (ประมาณ 31,xxx บาท)
  • 16GB+1TB: 6,999 หยวน (ประมาณ 35,xxx บาท)

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Xiaomi 16 Series ผ่านการรับรองแล้ว ยืนยัน 3 รุ่นรวด จัดเต็มชาร์จไว 100W ทุกโมเดล
• 
  รีวิว Xiaomi 15T Pro เรือธงสาย T ไม่ได้มีดีแค่ราคา

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่