Cisco ลุยตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ นำเสนอเทคโนโลยีเครือข่าย ในการส่งข้อมูลที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในโลก

ซิสโก้เปิดตัว Cisco Nexus 3548 พร้อมเทคโนโลยี Algorithm Boost (หรือ Algo Boost) ซึ่งเป็นนวัตกรรมเน็ตเวิร์คล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงเน็ตเวิร์คได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสวิตช์อีเธอร์เน็ต 10 กิกะบิต (GB) ของคู่แข่ง สวิตช์รุ่นใหม่นี้ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อใช้งานร่วมกับระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสถานซื้อขายหลักทรัพย์และองค์กรที่ต้องรองรับข้อมูลจำนวนมหาศาลในทุกอุตสาหกรรม ช่วยให้องค์กรเข้าถึงเน็ตเวิร์คได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียง 190 นาโนวินาที (ns) นับเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพครั้งใหญ่แบบก้าวกระโดดอย่างแท้จริงที่อาศัยเทคโนโลยีเฉพาะ Algo Boost ซึ่งเป็นผลงานของทีมงานวิศวกรซิลิคอนของซิสโก้ที่พัฒนาระบบการประมวลผลโดยเฉพาะ

Nexus 3548 ช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่มีข้อได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่ง รวมถึงสถานซื้อขายหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกก่อให้เกิดความต้องการเป็นอย่างสูงต่อเครือข่ายการทีมีความสามารถในการตรวจสอบและควบคุมที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประสิทธิภาพและความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยสวิตช์ประสิทธิภาพสูง Cisco Nexus 3548 ทำลายขีดจำกัดของการหน่วงเวลา (Latency) ที่ระดับ 200 นาโนวินาที

สวิตช์ Cisco Nexus 3548 พร้อมเทคโนโลยี Algo Boost ช่วยปรับปรุงสถาปัตยกรรม Cisco High Performance Trading Fabric เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจอย่างชาญฉลาดสำหรับลูกค้าโดยไม่บั่นทอนประสิทธิภาพหรือก่อให้เกิดความล่าช้าในการเข้าถึงเน็ตเวิร์ค Cisco Nexus 3548 ยังเป็นผลิตภัณฑ์ Nexus 3000 เจนเนอเรชั่นที่สองของซิสโก้ที่สร้างด้วยซิลิโคนซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะกับเทคโนโลยี Algo Boost เพื่อรองรับเวิร์กโหลดอย่างมีประสิทธิภาพในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์, HPC และบิ๊กด้าต้า (Big Data) คุณสมบัติหลักๆ ของ Nexus 3548 มีดังนี้

• ใช้เวลาน้อยมากในการส่งข้อมูลเพียงแค่ 190ns ในโหมด Warp
• การรีพลิเคตข้อมูลฟีดแบบมัลติคาสต์ (Multicast FeedReplication) มีระดับการใช้เวลาต่ำเพียงแค่ 50ns ด้วย Warp SPAN
• การตรวจสอบบัฟเฟอร์แบบแอคทีฟ (Active Buffer Monitoring) รองรับการตรวจสอบประสิทธิภาพขณะใช้งานจริง
• การแปลแอดเดรสเครือข่าย (Network Address Translation) ปราศจากความล่าช้า
• โปรโตคอลเวลาที่แม่นยำ (Precision Time Protocol) สำหรับการซิงโครไนซ์เวลาด้วยความแม่นยำสูง

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  realme GT 8 Pro เตรียมเปิดตัวพฤศจิกายนนี้ มาพร้อมกับหน้าจอ 2K ความสว่าง 7,000nits และชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite Gen 5
• 
  HUAWEI WATCH GT 6 Series ผสานดีไซน์หรูเหนือระดับเข้ากับความแข็งแกร่งขั้นสุด

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่