Samsung บุกตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซัมซุง เปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันหน้าจอสไลด์ทัชพร้อมกัน 5 รุ่น ผสานการใช้งานง่ายเหมือนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ นำทัพนวัตกรรมครั้งแรกก่อนใครในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชูเทคโนโลยีทัชสกรีน เปลี่ยนฟังก์ชันซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นช็อทคัท เมนู เพื่อการใช้งานหลายฟังก์ชันในคำสั่งเดียว ประหยัดเวลายิ่งขึ้นด้วยสมาร์ท เสิร์ช ค้นหาเมนูที่ต้องการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงหน้าจอควบคุมภาษาไทยที่ใช้งานง่ายกว่าที่เคย จับมือคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจรุกตลาดเต็มกำลัง พร้อมบริการหลังการขายเต็มรูปแบบเจาะตลาดทุกกลุ่มองค์กร

นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ รองประธานธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ภาพรวมธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสารในปัจจุบันถือว่ายังมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยองค์กรต่างๆ เริ่มเปลี่ยนจากการใช้เครื่องมือสองมาเป็นเครื่องใหม่มากขึ้น เนื่องจากราคาเครื่องใหม่และเครื่องเก่ามีราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งการใช้บริการยังคงเป็นการเช่าเครื่องมากกว่าการซื้อเครื่อง โดยการแข่งขันหลักๆ ในธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสารจะเน้นเรื่องคุณภาพ ใช้งานง่าย ราคา และการให้บริการหลังการขายเป็นหลัก ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีแบรนด์ใหม่เข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่เสถียรและการแข่งขันสูง ซัมซุงในฐานะผู้นำนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการไอทีมาอย่างยาวนาน และมีความเชี่ยวชาญในการผสานเทคโนโลยีในยุคดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบเครื่องถ่ายเอกสาร มองเห็นโอกาสในการรุกตลาดเครื่องถ่ายเอกสารในเมืองไทย จึงเลือกเปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

โดยในปีนี้ซัมซุงวางแผนเปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารทั้งสีและขาว-ดำ รวมทั้งสิ้น 5 รุ่นได้แก่ CLX-9201NA, CLX-9251NA, CLX-9301NA, SCX-8123NA และ SCX-8218NA ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมที่ซัมซุงภูมิใจนำเสนอไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกของหน้าจอแบบสไลด์ทัชที่ผสานคุณสมบัติเช่นเดียวกับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เปลี่ยนฟังก์ชันซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่าย ซึ่งมีในเครื่องถ่ายเอกสารซัมซุงเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้น การสร้าง Short Cuts เมนู เพื่อบันทึกฟังก์ชันการสั่งงานหลายฟังก์ชันขึ้นเป็นเมนูใหม่ ง่ายและประหยัดเวลาในการใช้งาน สมาร์ท เสิร์ช (Smart Search) ค้นหาเมนูที่ต้องการใช้งานได้อย่างคล่องตัว รวมถึงยังสามารถอ่านชื่อไฟล์และเลือกเมนูเป็นภาษาไทยได้อีกด้วย

อีกทั้งยังเปี่ยมด้วยสมรรถนะการประมวลผลระดับสุดยอดด้วยโปรเซสเซอร์ Samsung 1 GHz Dual-Core Processors ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ทันใจมากกว่าเครื่องถ่ายเอกสารทั่วไปถึง 1.5 เท่า ด้วยความสามารถในการพิมพ์ด้วยความเร็วสูงสุด 30 หน้าต่อนาทีและสูงสุด 100,000 แผ่นต่อเดือน สั่งพิมพ์งานง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้โดยตรงด้วย Mobile Print App ไม่ว่าจะเป็นไฟล์สั่งพิมพ์งานเอกสาร PDF เว็บไซต์หรือรูปภาพ ก็ไม่ต้องเข้าไดรฟ์เวอร์ให้ยุ่งยากอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถสั่งสแกนเอกสารส่งตรงถึงมือผู้ใช้ได้อีกด้วย นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นแล้ว ซัมซุงยังนำเสนอโซลูชัน เพื่อรองรับการใช้งานหรือควบคุมการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Security Print โซลูชันสำหรับการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กร หรือ Confidential Print

นายบุญเลิศ กล่าวเสริมว่า “สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารซัมซุงนี้ ซัมซุงแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็น 2 กลุ่มหลักคือกลุ่มธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ และกลุ่มลูกค้าธุรกิจ สำนักงานทั่วไป โดยเน้นการทำตลาดผ่านช่องทางผู้แทนจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งจะใช้ฐานคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจเดิมของซัมซุงที่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรอยู่แล้ว รวมถึงการเพิ่มช่องทางใหม่ไปยังผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการเครื่องถ่ายเอกสารโดยเฉพาะ นอกจากเรื่องเทคโนโลยีในการพิมพ์แล้วการพิจารณาการเลือกเครื่องถ่ายเอกสารแต่ละครั้ง แต่ละองค์กรยังจะพิจารณาถึงต้นทุนในการพิมพ์โดยรวม ซัมซุงจึงเน้นการโปรโมทเรื่องค่าใช้จ่ายครบวงจร หรือ Total Cost of Ownership ซึ่งเป็นการพิจารณารวมค่าต้นทุนเครื่อง กระดาษและหมึกพิมพ์ รวมถึงค่าบริการซ่อมบำรุง เพื่อเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกเครื่องถ่ายเอกสารซัมซุง นอกจากนี้ซัมซุงยังเตรียมพร้อมด้านบริการหลังการขายอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรผ่าน ‘ซัมซุง เซอร์วิส เซ็นเตอร์ (Samsung Service Center)’ ที่จะขยายให้ครบ 45 แห่งภายในสิ้นปี โดยจะมีเบอร์ติดต่อพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการ”

“ซัมซุงมั่นใจว่าการรุกตลาดของซัมซุงในวันนี้จะเป็นการเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเครื่องถ่ายเอกสารในเมืองไทยอย่างแน่นอน” นายบุญเลิศ กล่าวทิ้งท้าย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  realme 15 Series 5G ชูกล้อง Triple 50MP และ AI Party Mode เก็บทุกช็อตความสนุก
• 
  Redmi Note 15 Pro อาจมีรุ่น 4G ให้เลือก คาดใช้ชิป Helio G200 Ultra กล้องหลัง 200MP

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่