แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 13 มีนาคม 2557
Microsoft ได้ออกมาเตือนผู้บริโภคอีกครั้งถึงการสิ้นสุดการให้บริการสำหรับวินโดวส์ XP และ Office 2003 ในวันที่ 8 เมษายน 2557 นี้ ซึ่งเป็นการนับถอยหลัง 30 วันสุดท้ายสำหรับผู้ที่ยังใช้วินโดวส์ XP และ Office 2003 อยู่ในขณะนี้ ก่อนที่การอัพเดทระบบรักษาความปลอดภัยและการให้บริการด้านเทคนิคต่างๆ จะสิ้นสุดลง

เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถอัพเกรดจากวินโดวส์ XP ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว 2 เครื่องมือฟรีล่าสุด ที่ช่วยตรวจสอบระบบปฏิบัติการของผู้บริโภคที่ยังไม่แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ของตนเองกำลังใช้ระบบใดอยู่ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักและย้ำเตือนผู้บริโภคที่ยังคงใช้วินโดวส์ XP ทั้งไลเซนส์ประเภท Home และ Professional ผู้บริโภคจะได้รับคำเตือน (notification) ผ่าน วินโดวส์ อัพเดท โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2557 เวลา 15.00 น ที่ผ่านมา คำเตือนดังกล่าวจะแจ้งวันสิ้นสุดการให้บริการ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ไปที่เว็บไซต์ www.windows.com เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของการสิ้นสุดการสนับสนุนดังกล่าวที่พวกเขาจะได้รับ
จากข้อมูลของ StatCounter และรายงาน IDC Worldwide PC Tracker พบว่าในประเทศไทย ยังมีผู้ใช้กว่า 25.32% ที่ใช้งานวินโดวส์ XP อยู่ หรือราว 2.5 ล้านเครื่อง ในขณะที่วินโดวส์ 7 และวินโดวส์ 8 มีสัดส่วนผู้ใช้งานอยู่ที่ 52.62% และ 4.88% ตามลำดับ โดยภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา วินโดวส์ 8 มีจำนวนผู้ใช้มากขึ้นถึง 84%
ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2557 เป็นต้นไป ไมโครซอฟท์จะยุติการอัพเดทซอฟต์แวร์และระบบรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงการให้บริการด้านเทคนิคต่างๆ สำหรับวินโดวส์ XP ที่มีอายุ 12 ปี และ Office 2003 ที่มีอายุ 10 ปี ซึ่งแปลว่าผู้ใช้จะไม่ได้รับการอัพเดทต่างๆ ที่สามารถช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์จากไวรัสอันตราย สปายแวร์ และซอฟต์แวร์ประสงค์ร้ายอื่นๆ

นายรชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจและการตลาดวินโดวส์ และ เซอร์เฟซ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “วินโดวส์ XP และ Office 2003 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงและช่วยเพิ่มประสิทธิผลทั้งในการทำงานและการพักผ่อนให้กับผู้ใช้นับร้อยล้านคนทั่วโลก แต่เมื่อเวลาผ่านไป 12 ปี การใช้เทคโนโลยีของผู้คนก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เช่นเดียวกับการที่คุณและผู้ใช้ทั่วๆไปจะไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือที่มีอายุกว่า 12 ปีแล้ว วินโดวส์ XP และ Office 2003 จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของเราในโลกสมัยใหม่ที่มีการเชื่อมต่อถึงกันตลอดเวลา”
ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัววินโดวส์ XP เมื่อเดือนตุลาคม 2544 ซึ่งโน๊ตบุ๊คในสมัยนั้นทั้งหนา ทั้งหนัก ซ้ำยังมีแบตเตอรีที่มีอายุการใช้งานสั้นและมีราคาที่สูงมาก นอกจากนั้น จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในปี 2544 คิดเป็นอัตราส่วนเพียง 8% ของประชากรโลก ซึ่งไม่สามารถเทียบได้กับ 39% ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ในสมัยก่อนเราใช้เพียง PDA ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาที่ไม่สามารถแม้แต่จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ในขณะที่ดีไวซ์ที่เรารู้จักและคุ้นเคยในปัจจุบันล้วนแล้วแต่ใช้งานได้ด้วยระบบสัมผัสและยังสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมของคุณผ่านแอพพลิเคชันและเครื่องมือต่างๆ
“แม้ว่าอินเตอร์เน็ตจะมีประโยชน์มากมาย แต่ในโลกออนไลน์ก็ยังแฝงไปด้วยนักโจรกรรมไซเบอร์ที่ติดตามผู้ใช้ไปทุกหนทุกแห่ง ดังนั้น ผู้บริโภคที่มีดีไวซ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ XP จึงจำเป็นที่จะต้องตระหนักว่าการหยุดใช้วินโดวส์ XP ไม่ใช่เป็นแต่เพียงการอัพเกรดไปสู่ระบบปฏิบัติการใหม่ แต่ยังเป็นการปกป้องดีไวซ์ในบ้านของคุณจากภัยร้ายบนโลกไซเบอร์อีกด้วย เนื่องจากวินโดวส์ XP ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตแบบออนไลน์และการใช้งานนอกสถานที่ นอกจากนี้ การอัพเกรดยังจะช่วยปกป้องธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปจากภัยคุกคามใหม่ๆ อีกนับล้านที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมา” นายรชฏ กล่าวเสริม

ผู้บริโภคส่วนมากมักไม่ให้ความสำคัญกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยและมีความคิดว่าตนเองจะไม่ตกเป็นเป้าของซอฟต์แวร์ประสงค์ร้ายและแฮคเกอร์ แท้จริงนั้น ข้อมูลส่วนตัวที่เราได้รวบรวมและแลกเปลี่ยนกับผู้อื่นตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาถือเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างมหาศาลสำหรับแฮคเกอร์ นอกจากนี้ รายงาน Security Intelligence Report (Vol. 15) ของไมโครซอฟท์พบว่า วินโดวส์ XP SP3 นั้นมีความเสี่ยงในด้านดังกล่าวมากกว่า วินโดวส์ 8 ถึง 5.68 เท่า และยังมีอัตราการติดไวรัสต่างๆ มากกว่าถึง 82.4% หากจะคิดง่ายๆ ก็คือ โอกาสที่ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ จะสูญหายไปจากอุปกรณ์ที่ใช้วินโดวส์ XP นั้นมีสูงกว่าในอุปกรณ์สมัยใหม่ที่ใช้วินโดวส์ 8
การยุติการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ หลังสิ้นอายุการใช้งานนั้น นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ โดยซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์โดยส่วนใหญ่มักได้รับการสนับสนุนและการบริการเป็นเวลา 10 ปี แต่วินโดวส์ XP นั้น ได้รับการสนับสนุนยาวนานกว่า 12 ปี ซึ่งถือได้ว่ามากกว่าวินโดวส์เวอร์ชั่นใดๆ ที่เคยมีมา
เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่างๆ ผู้บริโภคควรอัพเกรดไปสู่ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติในด้านระบบการรักษาความปลอดภัยระดับสูง เช่น ไฟร์วอลล์ประเภทบิ้วท์อิน (built-in firewall) แอนตี้ไวรัส (anti-virus) และเครื่องมือป้องกันมัลแวร์รูตคิท (rootkit malware) โดยไมโครซอฟท์มีพันธมิตร อย่างเช่น เลอโนโว (Lenovo) เดลล์ (Dell) เอชพี (HP) เอซุส (Asus) และเอเซอร์ (Acer) ที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในหลากหลายรูปแบบและราคาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตหรือคอนเวิร์ทติเบิล เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งวินโดวส์ 8.1 นั้นได้ถูกสรรค์สร้างมาให้ใช้งานได้กับทั้งระบบสัมผัสและระบบการใช้เมาส์และคีย์บอร์ด ตามความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้
นายรชฏ ยังกล่าวอีกว่า “ราคาไม่น่าจะเป็นปัญหาในการอัพเกรดอีกต่อไป เพราะราคาเฉลี่ยของพีซีในวันนี้ได้ลดต่ำลงกว่า 40% เมื่อเทียบกับในปี 2545 ผู้บริโภคนับล้านในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคได้ย้ายไปใช้วินโดวส์ 8.1 ที่สามารถมอบประโยชน์มากมายด้วยประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็ว สะอาดตาและผสมผสานฟีเจอร์ต่างๆ เข้ากันได้อย่างลงตัว”

นอกจากนี้ เมื่อทำงานร่วมกับ Office 365 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 จะให้ประสบการณ์ที่รวดเร็วกว่า ปลอดภัยกว่า มีประสิทธิผลมากกว่า และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า สำหรับทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหลายอย่างของ Word PowerPoint อีเมล์ การดูวีดีโอ ฟังเพลง และการเชื่อมต่อกับเพื่อนๆ และครอบครัว
เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคย้ายจากวินโดวส์ XP ได้สะดวกยิ่งขึ้น ไมโครซอฟท์จึงได้เปิดตัว 2 เครื่องมือใหม่ที่ใช้งานได้ฟรี ได้แก่
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.microsoft.com วันที่ : 13 มีนาคม 2557
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ
realme Watch 5 สมาร์ตวอทช์ดีไซน์คุ้นๆ เหมือนค่ายผลไม้ แต่ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว
HUAWEI FreeBuds Pro 5 หูฟังไร้สาย TWS มาพร้อมชิป Kirin A3 รับรองเสียง Lossless สตีมมิ่ง 4.6Mbps
รีวิว ASUS V500MV พีซีไซส์เล็ก สเปค Core i5 Gen 13 ตอบโจทย์ออฟฟิศยุคใหม่
HONOR Watch Fit สมาร์ตวอทช์มินิมอล ดีไซย์บางเฉียบ ใช้งานได้นาน 23 วัน ราคาเบาๆ 2,999 บาท
HONOR Watch 5 Ultra วางขายในไทย สมาร์ตวอทช์ผลิตจากไทเทเนียม รองรับโหมด Freedive ลึก 40 เมตร
Redmi Note 15 Series หลุดทั้งภาพ และข้อมูลสเปคก่อนเปิดตัวแบบ Global19 ชั่วโมงที่แล้ว