แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 13 สิงหาคม 2557
หนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญมากในการเลือกแท็บเล็ตคงจะหนีไม่พ้นประสิทธิภาพ เพราะไม่ว่าคุณจะใช้งานเพื่อท่องอินเตอร์เน็ต ดูคลิปวิดีโอ เล่นเกมส์ หรือใช้ติดต่อกับเพื่อนบนโลกออนไลน์ ประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การใช้งานราบรื่นไม่สะดุด หลายคนมักคิดว่าตัวเลขสูงๆ จะนำมาซึ่งประสิทธิภาพที่สูงกว่าอยู่เสมอ แต่บางครั้งตัวเลขเพียงอย่างเดียวนั้น อาจจะไม่ได้สะท้อนประสิทธิภาพที่แท้จริงก็ได้ ตัวอย่างเช่น เรื่องของ คอร์ (core) บนชิปประมวลผล บางครั้งชิปที่มีจำนวนคอร์น้อยกว่าอาจจะใช้พลังงานได้ประหยัดกว่าและมีประสิทธิเหนือกว่าชิปที่มีคอร์มากกว่าก็ได้ เพราะว่า “จำนวน” คอร์ ไม่ได้สำคัญเท่า “คุณภาพ” ของแต่ละคอร์ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือเมื่อมีคอร์มากขึ้น ชิปประมวลผลจะต้องหาวิธีให้คอร์แต่ละคอร์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ความเชื่อที่ว่าชิปที่มีจำนวนคอร์มากกว่า มักจะมีประสิทธิภาพสูงกว่านั้นไม่จริงเสมอไป เพราะว่าคอร์แต่ละคอร์ไม่ได้มีความสามารถเท่ากัน

เปรียบเทียบกันแค่จำนวนคอร์ในแท็บเล็ต อาจจะไม่ได้บอกถึงประสิทธิภาพทั้งหมด
คอร์ มีหน้าที่ประมวลคำสั่งที่ได้รับมาจากผู้ใช้งานเปรียบเหมือนกับเครื่องคิดเลข แต่ว่าต่อให้มีเครื่องคิดเลขหลายเครื่องเพื่อการคำนวนเลขง่ายๆ ย่อมไม่มีประโยชน์ ดังนั้น ปัจจัยสำคัญไม่ได้อยู่ที่จำนวนคอร์เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ว่าชิปนั้นๆ ได้ถูกออกแบบมาให้ทุกคอร์ทำหน้าที่เสริมกันได้อย่างดีหรือไม่ นอกจากนั้นคอร์นั้นจะมอบประสิทธิภาพสูงสุด ก็ต่อเมื่อนำไปใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อสามารถกระจายคำสั่งให้ตัวคอร์ทั้งหมดทำงานร่วมกันได้อย่างดี
ถ้าชอบเล่นเกมส์บนแท็บเล็ต จำเป็นต้องเน้นคอร์สูงๆ หรือไม่
การเล่นเกมส์หรือการใช้งานที่เน้นกราฟฟิกเยอะบนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีอาจจะต้องการคอร์ที่มากขึ้น อย่างไรก็ตามเกมส์บนแท็บเล็ตที่เป็นที่นิยมในท้องตลาดปัจจุบัน ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานบนชิปประมวลผลแบบ 2 คอร์ และ 4 คอร์เท่านั้น ดังนั้นไม่มีความจำเป็นใดๆที่ผู้ใช้งานจะต้องไปเลือกชิปที่มีคอร์มากที่สุดมาเพื่อใช้งาน เช่น หลายคนหันไปซื้อชิปที่มีคอร์มากถึง 8 คอร์ แต่หากเกมส์หรือโปรแกรมที่จะใช้งานนั้น ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานแบบ 8 คอร์ได้ มันก็จะใช้เพียงแค่ 2 หรือ 4 คอร์จากที่มีทั้งหมดเท่านั้น
“การออกแบบชิปของอินเทล เราจะใส่คอร์เพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานจริงๆเท่านั้น นอกจากนั้น เรายังทุ่มเทเวลาในการพัฒนาเพื่อให้แน่ใจได้ว่าทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุดและคุ้มค่านั่นเอง” คริสโตเฟอร์ เคลลี่ หัวหน้าอินเทล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ประเทศมาเลเชียกล่าว “สมมติว่าคุณจะเล่นเกม Candy Crush หรือ Modern Combat 4 คุณไม่จำเป็นต้องใช้คอร์สูงๆเลย เพราะว่าเพียง 2 คอร์ก็สามารถทำให้การใช้งานรื่นไหลได้แล้ว ต่อให้เครื่องของคุณมี 8 คอร์ ก็ไม่ได้หมายความว่าการประมวลผลของเกมส์นั้นจะเร็วขึ้น”

คอร์ ไม่ได้ถูกสร้างมาเหมือนกันทุกอันเสียทีเดียว
ชิปประมวลผลของอินเทลนั้น ถูกผลิตขึ้นมาบนพื้นฐานสถาปัตยกรรมแบบ 64 บิท ต่างจากชิปทั่วไปที่เป็นแบบ 32 บิท นั่นหมายความว่าชิปแบบ 64 บิท จะประมวลผลได้เร็วกว่า และถ้านับในเวลาที่เท่ากันก็สามารถประมวลผลข้อมูลได้จำนวนมากกว่า เปรียบได้เหมือนเวลาไปเข้าคิวซื้อตั๋วหนัง การมีช่องให้บริการ 64 ช่อง ก็จะสามารถให้บริการลูกค้าได้เร็วกว่าการที่มีเพียง 32 ช่องเท่านั้น อินเทลได้ทำการทดลอง อินเทล อะตอม Z3480 โดยทดลองในโหมด 64 บิท กับ 32 บิท บนแอพพลิเคชั่นเดียวกัน พบว่าโหมด 64 บิทนั้นทำงานดีกว่า โดยการบีบอัดข้อมูลมีความเร็วกว่าถึงร้อยละ 33 และการเล่นเกมหมากรุก คอมพิวเตอร์สามารถประมวลเลือกตัวหมากออกมาแข่งได้เร็วกว่าถึงร้อยละ 34 พูดง่ายๆคือว่าการใช้ชิปที่มีเทคโนโลยี 64 บิท จะมอบประสิทธิภาพที่สูงกว่าให้กับเครื่องของคุณได้
เลือกสมรรถนะที่ใช้งานได้อย่างแท้จริง เพื่อความคุ้มค่า
หากเราจะเปรียบเทียบนวัตกรรมของชิปในแท็บเล็ตกับเครื่องบิน ตัวคอร์ก็เหมือนการพัฒนาจากใบพัดเครื่องบินมาเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ เมื่อก่อนเราจำเป็นต้องมีใบพัดหลายใบเพื่อทำให้เครื่องบินมีสมรรถนะสูงขึ้น แต่ปัจจุบันเรามีเครื่องยนต์เทอร์โบแล้ว จึงเห็นว่าทั้งแอร์บัส A330* และโบอิ้ง 787* ใช้เครื่องยนต์เพียงแค่ 2 ตัว เพราะว่ามีความแรงมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ถ้าหากไปติดตั้งเครื่องยนต์เพิ่มเป็น 8 เครื่องก็มีแต่จะเสียเชื้อเพลิงไปเปล่าๆ ซึ่งก็เหมือนกันกับแท็บเล็ตที่ใช้ชิปที่มีหลายคอร์ อินเทลได้มีการพัฒนาคอร์ ของโปรเซสเซอร์ให้กินไฟน้อยลงเมื่อทำงานที่เท่ากัน และยังได้มีการพัฒนาให้ชิปสามารถทำงานได้หลายงานพร้อมกัน ด้วยเทคโนโลยีอย่าง อินเทล ไฮเปอร์ เธรดดิ้ง เทคโนโลยี โปรเซสเซอร์ของอินเทลสามารถใช้คอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำงานได้เหมือนชิปอื่นๆ ที่มีคอร์มากกว่า นั่นคือเหตุผลที่อินเทล ย้ำอยู่ตลอดเวลาในเรื่องของความสามารถในการจัดการกับคำสั่งที่ได้รับ เพื่อการประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพของทุกคอร์ที่มี เพื่อให้ทุกคอร์ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง แล้วยิ่งในปัจจุบันที่ อินเทลได้พัฒนาชิปแบบ 64 ออกมาด้วยแล้ว จำนวนคอร์จึงลดความสำคัญลงไป เพราะว่าตัวเลขนั้น ไม่สามารถสะท้อนถึงสมรรถนะได้อย่างแท้จริง ซึ่งปัจจุบันนี้ ก็สามารถหาซื้อแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงที่ใช้ชิปประมวลผล อินเทล อะตอม ได้หลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Dell Venue 8 Pro, Acer Iconia One 7, Acer Iconia W4, ASUS FonePad7 เป็นต้น

แล้วควรจะเลือกอย่างไร
คำถามที่อยู่ในใจของคุณตอนนี้คือ “แล้วจะรู้ได้อย่างไร เวลาไปเลือกซื้อแท็บเล็ตว่า เครื่องไหนจะมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน” คำตอบของเราคือ เมื่อหันมาดูปัจจัยหลายๆอย่างแล้ว การที่จะบอกว่าชิปที่มีคอร์เยอะ จะมีประสิทธิภาพมากกว่านั้น อาจจะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดและอาจไม่ได้เลือกซื้อสิ่งที่เหมาะสมกับการใช้งานที่สุดเสมอไป เพราะว่าคอร์แต่ละคอร์ สร้างมาบนพื้นฐานที่ต่างกัน และการมีหลายคอร์ทำให้แท็บเล็ตกินไฟมากขึ้น
วิธีง่ายๆ คือ ตอบตัวเองให้ได้ว่าต้องการแท็บเล็ตเครื่องนั้นไปใช้ทำงานประเภทใด แล้วไปลองใช้งานจริงที่ร้านค้าดู รวมถึงศึกษาข้อมูลอื่นๆ นอกเหนือจากจำนวนคอร์ เช่นการใช้งานแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อไวไฟและ3จี เพื่อประกอบการตัดสินใจไปด้วย อย่าให้จำนวนคอร์ มาทำให้คุณหลงเชื่อว่าจะทำงานได้ดีกว่า เพราะว่ามันไม่จริงเสมอไป
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.thailand.intel.com วันที่ : 13 สิงหาคม 2557
HUAWEI FreeClip 2 หูฟังไร้สาย Clip-On เสียงดีขึ้น เบาขึ้น และคุยสายได้เนียนขึ้น
Samsung เปิดตัว 60W Power Adapter เตรียมการ Galaxy S26 Series และอุปกรณ์อื่นๆ ในปี 2026
OnePlus 15R และ OnePlus Pad Go 2 ประกาศวันเปิดตัว พร้อมบอกสเปคบ้างส่วนบนหน้าเว็บไซต์
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ
รีวิว iPad Pro M5 เพิ่มความแรงอีกขั้นกับชิป M5 ใครเครื่องเดิมอยู่ดีๆ เริ่มช้า ต้องเปลี่ยน
HUAWEI MatePad 11.5 2025 (Standard Edition) ตอบทุกโจทย์ จัดเต็มทุกฟังก์ชันระดับพีซี
OnePlus Ace 6T เคาะวันเปิดตัว! ประเดิมชิปฯ Snapdragon 8 Gen 5 รุ่นแรกของโลก
หลุดสเปค Redmi Note 16 Pro+ จัดเต็มกล้อง 200MP แบตฯ 7,500mAh เตรียมท้าชน Realme 16 Series ปีหน้า
HUAWEI FreeBuds Pro 5 หูฟังไร้สาย TWS มาพร้อมชิป Kirin A3 รับรองเสียง Lossless สตีมมิ่ง 4.6Mbps
OPPO Reno 15c สมาร์ตโฟนชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 4 กล้องหลัง 3 ตัว Sony LYT-600
OPPO Pad SE รุ่น Matte Display เริ่มต้นเพียง 8,xxx วางจำหน่ายแล้ววันนี้