Razer Blade 16 X Automobili Lamborghini Edition จำหน่ายเพียง 150 เครื่องเท่านั้น

Razer เปิดตัว Razer Blade 16 X Automobili Lamborghini Edition ดีไซน์ได้รับการออกแบบมาจากแบรนด์รถยนต์ชื่อดังอย่าง Lamborghini ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิว เหลี่ยมมุม ส่วนโค้งเว้าต่าง ๆ ที่ผลิตมาจากอลูมิเนียม ผ่านเครื่องกัดเทคโนโลยี CNC ช่วยให้ตัวเครื่องมีความทนทานแข็งแรงและน้ำหนักเบา 

รวมถึงสีไฟ Razer Chroma RGB เป็นสีส้ม Arancio Apodis ตกแต่งด้วยสีดำเนื้อ Matte สุดเรียบหรู อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ในเครือ Automobili Lamborghini

Razer Blade 16 X Automobili Lamborghini Edition ใช้จอแสดงผล 4K Dual-Mode Mini LED ขนาด 16 x 10 นิ้ว ที่สามารถสลับไปมาได้ระหว่างโหมด UHD+ 120Hz โหมดที่เน้นภาพสวยคมชัด และโหมด FHD+ 240Hz ที่เน้นอัตรารีเฟรชเรทของหน้าจอเป็นหลัก

อัตราส่วนภาพนั้นจะอยู่ที่ 16:10 มีอัตราการตอบสนองต่ำกว่า 3 ms ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,000 นิต สีคมชัดด้วยเทคโนโลยี DCI-P3 Color Gamut และมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดแสงสีฟ้าจากหน้าจอได้ถึง 89% รองรับ HDR 1000 กับ NVIDIA G-Sync ด้วย

Razer Blade 16 X Automobili Lamborghini Edition ใช้ CPU Core i9 13950HX จับคู่กับการ์ดจอ GeForce RTX 4090 RAM 32GB DDR5 5600MHz, ที่เก็บข้อมูล PCIe 4.0 NVMe SSD 4TB

Razer Blade 16 X Automobili Lamborghini Edition ยังมีระบบระบายความร้อนที่สร้างขึ้นจากวัสดุที่ล้ำสมัยทำให้ระบายความร้อนได้โดยไร้เสียงและมีประสิทธิภาพ ขึ้นรูปด้วยบล็อกอลูมิเนียมเพื่อทำให้มีการกระจายน้ำหนักของตัวเครื่องที่เหมาะสม

รองรับพอร์ตและสายต่อตัวเครื่อง 8 สาย โดยรองรับ สายพาวเวอร์ 1 พอร์ต, USB 3.2 Gen 2 Type A 3 พอร์ต, USB 3.2 Gen 2 Type C 1 พอร์ต, พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร หรือ Microphone Combo 1 พอร์ต, ตัวอ่าน SD Card ประเภท UHS-II 1 พอร์ต, สาย Thunderbolt 4 1 พอร์ต, HDMI 2.1 1 พอร์ต และ Kensington Security Lock อีก 1 พอร์ต

ในส่วนของอะแดปเตอร์ถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่มีประสิทธิภาพที่สูงมาก ตัวอะแดปเตอร์ยาว 7.09 นิ้ว กว้าง 2.95 นิ้ว สูง 0.96 นิ้ว น้ำหนัก 840 กรัม ใช้แกลเลียมไนไตรท์เป็นตัวแปลงพลังงานมีความสามารถในการทำงานในอุณหภูมิและแรงดันไฟฟ้าที่สูง ทั้งยังมีความเสถียร สามารถจ่ายไฟได้สูงถึง 330W

Razer Blade 16 X Automobili Lamborghini Edition วางจำหน่ายในราคา 4999.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 182,9XX บาท โดยรุ่นนี้จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นและจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2023 เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Razer

แหล่งที่มา notebookcheck

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิว realme 14 5G สมาร์ตโฟน Performance Dominator แห่งปี พร้อมฟีเจอร์ AI และสเปคแบบจัดเต็ม
• 
  vivo V60 Lite เสิร์ฟสเปก ‘ไม่กั๊ก’ เปิดโหมดพักพร้อมลุยทุกฟีเจอร์

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่