Xiaomi SU7 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตู 5 ที่นั่ง ขนาด 4997 x 1963 x 1455 มม. และระยะฐานล้อ 3000 มม. มีล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว เเละ 21 นิ้ว ใช้ยางขนาด 245/45 R19 และ 245/40 R20 ตามลําดับ ส่วนท้ายมีความโดดเด่นด้วยชุดไฟท้ายแบบ LED ยาวติดกัน กันชนล่างสีดำมีช่องระบายอากาศและสปอยเลอร์ด้านหลังสามารถเปิด-ปิดได้

ดีไซน์ภายนอกของ Xiaomi SU7 ด้านหน้าฝากระโปรงมีความโค้งมนลาดลงเพื่อสร้าง Aero Dynamic ไฟหน้า LED ทรงสามเหลี่ยม กันชนล่างพร้อมช่องรับอากาศด้านข้างรูปตัว C ที่มีสีเดียวกับตัวรถ ชายขอบด้านล่างมีการติดตั้งวัสดุตกแต่งสีดำเพิ่มความเป็นรถ Sport Sedan เหนือบนกระจกบังลมจะมีทั้งรุ่นที่มี Lidar เเละไม่มี Lidar ติดตั้งอยู่ด้านหน้าเเละด้านหลังของกระจกบังลม พร้อมกับฟังก์ชั่นปลดล็อคการจดจำใบหน้าโดยกล้องจะอยู่บริเวณเสา B

ภายในห้องโดยสารของ Xiaomi SU7 เบื้องต้นยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลออกมา ภายในเเละเบาะโดยสารมีสองสี ขาว เเดง เสริมความโปร่งโล่งสบายภายในห้องโดยสารด้วยหลังคากระจกแบบ Panoramic Sunroof
Xiaomi SU7 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ SU7, SU7 Pro และ SU7 Max อุปกรณ์ตกแต่งบางส่วนจะมีปีกหลังแบบแอคทีฟ

ระบบขับเคลื่อนมีสองตัวเลือก RWD (Rear-wheel-drive ) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวที่ล้อคู่หลัง พร้อมมอเตอร์ 220 กิโลวัตต์ กำลังสูงสุด 295 แรงม้า และ AWD (All-wheel-drive) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ล้อคู่หน้าและหลัง มอเตอร์ 495 กิโลวัตต์ กำลังสูงสุด 664 แรงม้า ใช้ชุดแบตเตอรี่ LFP จาก BYD
น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 1,980 กิโลกรัม และความเร็วสูงสุดจำกัดอยู่ที่ 210 กม./ชม. สำหรับรุ่นเริ่มต้น น้ำหนักรถของรุ่นท็อปอยู่ที่ 2,205 กก. ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 265 กม./ชม.

ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ220XS000 ผลิตโดย United Automotive Electronics Co., Ltd. พร้อมกับฟังก์ชัน ETC ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติบนถนนที่เก็บค่าผ่านทางโดยไม่ต้องหยุดรถ
โรงงาน BAIC Off-road Vehicle Co. ในกรุงปักกิ่งได้เริ่มทดลองการผลิต Xiaomi SU7 แล้ว และมีรถทดสอบหลายสิบคันออกจากสายการผลิต สิ่งที่น่าสนใจคือ BAIC ยังผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศจีนภายใต้บริษัทร่วมทุนปักกิ่ง-เบนซ์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2005 และ BAIC ถือหุ้น 51% BAIC ยังเป็นผู้ถือหุ้นใน Mercedes-Benz เอง โดยถือหุ้น 10% ในผู้ผลิตรุ่นเก่าของเยอรมนี

ระบบในรถยนต์ของ Xiaomi SU7 จะขับเคลื่อนโดยระบบปฏิบัติการ HyperOS ของ Xiaomi ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัท จะเริ่มการผลิตจำนวนมากในเดือนธันวาคม 2023 และจะเริ่มการส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2024
Xiaomi ประกาศว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเดือนมีนาคม 2021 โดยอ้างว่าจะลงทุน 10 พันล้านหยวน (1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในโครงการนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ XiaomiEV.com
แหล่งที่มา carnewschina, carscoops
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 22 พฤศจิกายน 2566
OPPO Find X9 Pro เรือธงกล้องเทพ Hasselblad ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9500 ความสว่างหน้าจอ 3600ni...
Samsung Galaxy Watch Ultra 2 อาจเปิดตัวพร้อม Galaxy Watch 9 ในช่วงฤดูร้อนปีหน้า ชูจุดเด่นแบตเตอรี...
รีวิว POCO F8 Pro ที่สุดแห่งขุมพลัง Snapdragon 8 Elite ผสานพลังเสียง Bose ในบอดี้กระจกชิ้นเดียวที...
รีวิว HONOR X9d ทนนน…จัด! สมาร์ตโฟนสายลุยที่อึดสุดเท่าที่เคยมีมา
หลุดสเปค vivo S50 Series รุ่นเล็ก S50 Pro mini มาพร้อม Snapdragon 8 Gen 5 แบตฯ อึด 6,500mAh ในดีไ...
สุดยอดสมาร์ตโฟนถ่ายวิดีโอดีที่สุดสำหรับสาย YouTuber ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
10 สมาร์ตโฟนที่คนค้นหามากที่สุดใน Siamphone อัปเดตเดือนพฤศจิกายน 2025
5 สมาร์ตโฟนกล้องคุ้มเกินราคา ในงบไม่เกิน 15,000 บาท ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
iQOO 15 ท้าสัมผัสพลังเรือธง ที่เกิดมาเพื่อเหล่า MVPs 3 ธ.ค. นี้
5 สมาร์ตโฟนจอใหญ่ ถนอมสายตา เหมาะกับผู้สูงอายุ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025