Nothing Ear (open) หูฟังไร้สายดีไซน์ Open-Ear เล็กกระทัดรัด ใช้งานได้สูงสุด 30 ชั่วโมง

Nothing ได้เปิดตัวหูฟัง Nothing Ear (open) ซึ่งเป็นหูฟังสเตอริโอแบบเปิด (OWS) รุ่นแรกของแบรนด์ หลังจากที่มีการปล่อยทีเซอร์ออกมาก่อนหน้านี้ไม่นาน หูฟังรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Open Sound ของ Nothing ที่ช่วยสร้างประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น พร้อมกับยังคงทำให้ผู้ใช้รับรู้เสียงรอบตัวได้ตามปกติ

หูฟังนี้มีการออกแบบไดอะแฟรมเฉพาะซึ่งอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร เคลือบด้วยไทเทเนียม ใช้ไดรเวอร์น้ำหนักเบาพิเศษ การออกแบบรูปทรงนี้ ช่วยลดการบิดเบือนของเสียง เพิ่มความถี่ต่ำ ในขณะที่การเคลือบไทเทเนียมช่วยให้เสียงสูงคมชัดขึ้น บริเวณที่เกี่ยวหูใช้ลวดนิกเกิล-ไทเทเนียมซึ่งมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงทนทาน

มาพร้อมกับอัลกอริธึม Bass Enhance ที่ปรับแต่งอัตโนมัติเพื่อให้เสียงเบสที่เข้มข้นยิ่งขึ้น มีเทคโนโลยี Clear Voice ช่วยให้ได้ยินเสียงการสนทนาชัดเจนแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับ ChatGPT เพื่อประสบการณ์ที่ชาญฉลาดขึ้น

เทคโนโลยีประมวลผลเสียง ใช้ AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลเสียงรบกวนกว่า 28 ล้านแบบ และหูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลง หรือ 24 ชั่วโมงสำหรับการสนทนา และเพียงแค่ชาร์จ 10 นาที ก็ใช้งานได้ถึง 2 ชั่วโมง

สเปคเบื้องต้น Nothing Ear (open)

• ขนาดเคสชาร์จ : 125.9 x 44 x 19 มม., น้ำหนัก : 63.8 กรัม
• ขนาดหูฟัง : 51.3 x 41.4 x 14.4 มม., น้ำหนัก: 8.1 กรัม
• ไดรเวอร์แบบไดนามิก 14.2 มม. เคลือบด้วยไทเทเนียม และการออกแบบเฉพาะที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร
• Bluetooth 5.3, รองรับ AAC, SBC สามารถใช้งานได้กับ Android 5.0 และ iOS 13 ขึ้นไป, รองรับ Google Fast Pair, Microsoft Swift Pair, การเชื่อมต่ออุปกรณ์คู่
• อัลกอริธึม Bass Enhance อัตโนมัติ
• โหมด Low Lag 120 มิลลิวินาที (เปิดใช้อัตโนมัติบน Nothing Phone และสามารถเปิดจากแอปฯ สำหรับอุปกรณ์อื่นได้)
• เทคโนโลยี Clear Voice สำหรับการตัดเสียงรบกวนระหว่างโทร ด้วยไมโครโฟน 3 ตัว และการต้านทานเสียงลมที่ดีขึ้น
• รองรับ ChatGPT
• การควบคุมด้วยการบีบ เช่น เล่น/หยุดขณะเล่น, ข้ามไปข้างหน้า, ย้อนกลับ, รับสาย/วางสาย, ปฏิเสธสาย, สลับโหมด Active Noise Cancellation และ Transparency Mode, เรียกผู้ช่วยเสียง, ควบคุมระดับเสียง
• อีควอไลเซอร์ขั้นสูงพร้อมแชร์โปรไฟล์เสียง
• กันน้ำ (IP54 ทั้งตัวหูฟังและเคส)
• แบตเตอรี่ความจุ 64mAh ใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมงต่อหูฟังหนึ่งข้าง, แบตเตอรี่เคสชาร์จความจุ635mAh ใช้งานได้สูงสุด 6 ชั่วโมงพร้อมเคสชาร์จ
• ชาร์จเร็วผ่านพอร์ต USB Type-C ชาร์จเพียงแค่ 10 นาที เล่นเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง

Nothing Ear (open) มีเพียงสีเดียวคือ สีขาว มีราคาอยู่ที่ $149 หรือประมาณ 4,8xx บาท เริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิว Samsung Galaxy Buds3 FE หูฟังดีไซน์เรียบหรู พร้อม ANC, 360 Audio และ AI แปลภาษาแบบจัดเต็ม
• 
  พรีวิว iPhone 17 Pro Max การกลับมาของอะลูมิเนียม และปรับโฉมโมดูลกล้องเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่