12 สมาร์ตโฟนที่เปิดตัวล่าสุด รองรับ eSIM อัพเดตเดือนพฤศจิกายน 2025

ในปี 2568 เทรนด์ของสมาร์ตโฟนยังคงมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์เชื่อมต่อที่สะดวกและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น โดยมีเทคโนโลยี eSIM (Embedded SIM) เป็นหัวใจสำคัญ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานเบอร์ใหม่, สลับเครือข่าย หรือเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการทำงานและการเดินทางได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้ซิมการ์ดจริง บทความนี้ได้รวบรวมสมาร์ตโฟน 12 รุ่นล่าสุดที่โดดเด่นด้วยการรองรับ eSIM เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

1.Xiaomi 15T Pro

• เครือข่าย: 3G, 4G, 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: MIUI (บนพื้นฐาน Android 15)
• ชิปเซ็ต: Dimensity 9400+ Octa Core
• จอแสดงผล: 6.83 นิ้ว, 144Hz
• หน่วยความจำ: ROM สูงสุด 1TB
• จุดเด่น: โดดเด่นด้วยจอรีเฟรชเรทสูงและชิปเซ็ตที่ทรงพลัง มอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเรือธงตัวอื่น

2. Motorola Edge 60 Stylus

• เครือข่าย: 3G, 4G, 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: Android 16
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2
• จอแสดงผล: P-OLED ขนาด 6.7 นิ้ว, 120Hz
• คุณสมบัติเด่น: รองรับปากกา Stylus (Built-in)
• แบตเตอรี่: 5,000mAh, ชาร์จไว 68W

จุดเด่น: จุดขายที่ชัดเจนที่สุดคือการมีปากกา Stylus ในตัว ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจดบันทึก, วาดรูป หรือสั่งงานที่ต้องการความแม่นยำ ผสานกับหน้าจอ P-OLED 120Hz ที่ลื่นไหล และระบบชาร์จไว 86W ทำให้เป็นอุปกรณ์คู่ใจสำหรับคนทำงานและสายครีเอทีฟได้อย่างลงตัว

3. Google Pixel 9a

• เครือข่าย: 3G, 4G, 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: Android 16
• ชิปเซ็ต: Google Tensor G4 Octa Core
• จอแสดงผล: OLED ขนาด 6.3 นิ้ว, 120Hz
• กล้องหลัง: 48MP + 13MP (Ultrawide)
• คุณสมบัติเด่น: กันน้ำกันฝุ่น IP67

ช่องทางการสั่งซื้อ

• Lazada : https://s.lazada.co.th/s.z8S01?cc
• Shopee : https://s.shopee.co.th/1LVqnZBrjJ

จุดเด่น: Pixel 9a ยังคงรักษามาตรฐานสมาร์ตโฟนที่ฉลาดและถ่ายภาพสวยที่สุดในกลุ่ม ด้วยพลังการประมวลผลจากชิปเซ็ต Tensor G4 และซอฟต์แวร์กล้องอันเลื่องชื่อของ Google มอบประสบการณ์การใช้งาน Android ที่บริสุทธิ์ ได้รับการอัปเดตก่อนใคร และมีฟีเจอร์ AI ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

4. ASUS ROG Phone 9

• เครือข่าย: 3G, 4G, 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: ROG UI (บนพื้นฐาน Android 15)
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• หน่วยความจำ: RAM 16GB, ROM 256/512GB
• คุณสมบัติเด่น: ปุ่ม AirTrigger, กันน้ำ IP68

ช่องทางการสั่งซื้อ

• Lazada: https://c.lazada.co.th/t/c.YXObqS
• Shopee: https://s.shopee.co.th/3foRGsA7TI

จุดเด่น: ออกแบบมาเพื่อเป็นที่สุดของสมาร์ตโฟนสำหรับเล่นเกม ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ที่ทรงพลัง พร้อม RAM สูงถึง 16GB และมีฟีเจอร์เฉพาะทางสำหรับเกมเมอร์อย่างปุ่ม AirTrigger ที่ช่วยให้ควบคุมเกมได้ดั่งใจยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในการเล่นเกม

5. ASUS ROG Phone 9 Pro

• เครือข่าย: 3G, 4G, 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: ROG UI (บนพื้นฐาน Android 15)
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite
• หน่วยความจำ: RAM 16GB, ROM 512GB
• คุณสมบัติเด่น: จอแสดงผลรอง ROG Vision ด้านหลังเครื่อง

จุดเด่น: ยกระดับประสบการณ์เกมมิ่งไปอีกขั้นด้วย RAM ขนาดมหึมาถึง 16GB ทำให้การสลับแอปพลิเคชั่นหรือเล่นเกมที่กราฟิกหนักๆ เป็นไปอย่างราบรื่นไร้ที่ติ เสริมความโดดเด่นด้วยจอ ROG Vision ขนาดเล็กด้านหลังเครื่องสำหรับแสดงผลแอนิเมชันหรือการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อบ่งบอกความเป็นเกมเมอร์ระดับโปร

6. ASUS ROG Phone 9 Pro Edition

• เครือข่าย: 3G, 4G, 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: ROG UI (บนพื้นฐาน Android 15)
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite
• หน่วยความจำ: RAM 24GB, ROM 1TB
• คุณสมบัติเด่น: มาพร้อมชุดพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X

จุดเด่น: นี่คือแพ็คเกจขั้นสุดสำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์อย่างแท้จริง โดยนอกจากจะมีสเปคที่ทรงพลังเหมือนรุ่น Pro แล้ว ยังมาพร้อมกับชุดพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X ในกล่อง ช่วยรักษาระดับประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างต่อเนื่องระหว่างการเล่นเกมที่ยาวนาน พร้อมหน่วยความจำภายในสูงถึง 1TB

7. Samsung Galaxy S25 Ultra

• เครือข่าย: 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: One UI 7 (บนพื้นฐาน Android 15)
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite Octa Core
• จอแสดงผล: LTPO AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว, 120Hz
• คุณสมบัติเด่น: กล้อง 200MP, S Pen (Built-in), กรอบไทเทเนียม

ช่องทางการสั่งซื้อ

• Lazada: https://c.lazada.co.th/t/c.YXk3OS
• Shopee: https://s.shopee.co.th/AA1jkmLuBU

จุดเด่น: ที่สุดของนวัตกรรมสมาร์ตโฟนจากซัมซุงที่รวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียว ทั้งประสิทธิภาพระดับสูงสุดจากชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite, ชุดกล้องหลัง 200MP ที่ซูมได้ไกลและคมชัด, ปากกา S Pen ในตัวสำหรับการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมวัสดุตัวเครื่องไทเทเนียมที่ทั้งแข็งแกร่งและหรูหรา

8. Samsung Galaxy S25+

• เครือข่าย: 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: One UI 7 (บนพื้นฐาน Android 15)
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite Octa Core
• จอแสดงผล: LTPO AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว, 120Hz
• แบตเตอรี่: 4,900mAh, ชาร์จไว 45W

ช่องทางการสั่งซื้อ

• Lazada: https://c.lazada.co.th/t/c.YXk3KH
• Shopee: https://s.shopee.co.th/5KwU0G9qDu

จุดเด่น: เป็นรุ่นที่ผสมผสานความลงตัวระหว่างขนาดหน้าจอและประสิทธิภาพ โดยยังคงได้ใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธงตัวเดียวกับรุ่น Ultra แต่มาในตัวเครื่องที่บางเบากว่า พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว และระบบชาร์จไว 45W ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานได้รอบด้าน

9. Samsung Galaxy S25

• เครือข่าย: 5G (Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: One UI 7 (บนพื้นฐาน Android 15)
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite Octa Core
• จอแสดงผล: LTPO AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว, 120Hz
• แบตเตอรี่: 4,000mAh, ชาร์จไว 25W

ช่องทางการสั่งซื้อ

• Lazada: https://c.lazada.co.th/t/c.YXk3qy
• Shopee: https://s.shopee.co.th/40R6Psr6YN

จุดเด่น: สมาร์ตโฟนเรือธงสำหรับผู้ที่ชื่นชอบขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก แต่ยังคงอัดแน่นด้วยประสิทธิภาพระดับท็อปจากชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ทำให้การใช้งานทุกอย่างรวดเร็วและลื่นไหล เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่ใช้งานมือเดียวได้ง่าย

10. Apple iPhone 17 Pro Max

• เครือข่าย: 5G (ใช้งาน Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: iOS 26
• ชิปเซ็ต: Apple A19 Pro Hexa Core (2+4)
• จอแสดงผล: Super Retina XDR OLED ขนาด 6.9 นิ้ว, 120Hz
• กล้องหลัง: Quad Camera: 48MP + 48MP (Periscope telephoto) + 48MP (Ultrawide) + TOF 3D LiDAR
• แบตเตอรี่: 4,832mAh, ชาร์จไร้สาย MagSafe 25W

ช่องทางการสั่งซื้อ

• Lazada: https://s.lazada.co.th/s.A5dKx?cc
• Shopee: https://s.shopee.co.th/70AgHzuk7h

จุดเด่น: ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธงที่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2568 มาพร้อมประสิทธิภาพสูงสุด กล้องหลังที่มีความละเอียดสูงและมีพลังซูมถึง 8 เท่า พร้อมรองรับการใช้งาน eSIM และฟีเจอร์ระดับโปร

11. Apple iPhone Air

• เครือข่าย: 5G (ใช้งาน Nano-SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: iOS 26
• ชิปเซ็ต: Apple A19 Pro Hexa Core (2+4)
• จอแสดงผล: Super Retina XDR OLED ขนาด 6.5 นิ้ว, 120Hz
• กล้องหลัง: กล้องเดี่ยว 48MP
• แบตเตอรี่: 3,149mAh, ชาร์จไร้สาย MagSafe 20W
• คุณสมบัติเด่น: ตัวเครื่อง บางเพียง 5.64 มม. น้ำหนักเบา 165 กรัม, กรอบ ไทเทเนียม, หน้าจอ Dynamic Island, กันน้ำ IP68

จุดเด่น: น้องใหม่ที่เน้นความบางเบาและดีไซน์พรีเมียมด้วยกรอบไทเทเนียม แม้จะมีกล้องหลังเพียงตัวเดียว แต่ยังคงใช้ชิปเซ็ต A19 Pro ที่ทรงพลัง ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในตัวเครื่องที่เพรียวบางที่สุด

12. realme 15

• เครือข่าย: 5G (รองรับ Dual SIM และ eSIM)
• ระบบปฏิบัติการ: realme UI 6.0 บนพื้นฐาน Android 15
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 7300+ Octa Core ความเร็ว 2.6 GHz
• จอแสดงผล: OLED 10-bit ขนาด 6.8 นิ้ว, 1280 x 2800 พิกเซล, 144Hz
• กล้องหลัง: 50MP (หลัก) + 8MP (Ultrawide)
• กล้องหน้า: 50MP
• ความจุแบตเตอรี่: 7,000mAh, ชาร์จไว 80W
• คุณสมบัติเด่น: กันน้ำกันฝุ่น IP68/IP69, ด้านหลังเครื่อง Silicone Polymer

ช่องทางการสั่งซื้อ

• Lazada: https://s.lazada.co.th/s.ANzJu?cc
• Shopee: https://s.shopee.co.th/8zvxdCssuj

จุดเด่น: สมาร์ตโฟนที่มอบประสบการณ์ภาพที่สว่างสดใสด้วยจอ OLED 144Hz ขนาดใหญ่ พร้อมชิปเซ็ต Dimensity 7300+ ที่ทรงพลัง กล้องหน้าและหลังความละเอียดสูง 50MP และความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,000mAh รองรับชาร์จไว 80W และมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับสูง