แชร์

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

Apple Watch 11 เป็นอีก 1 สมาร์ตวอทช์ที่ถูกเปิดตัวในงาน Awe Dropping วันที่ 9 กันยายน 2025 ที่ผ่านมา โดยมารอบนี้เข้าเทรนด์หุ่นบางด้วยเช่นกัน เพราะมีความหนาเพียง 9.7 มิลลิเมตร ถือว่าบางที่สุดในบรรดา Apple Watch และมีตัวเลือกวัสดุให้เลือก 2 แบบเหมือนเดิมคือ อะลูมิเนียม และไทเมเนียม ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ดูไม่ค่อยมีอะไรมาก มีการอัปเกรดการติดตามสุขภาพให้ดีขึ้น และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่ารุ่นก่อนหน้า

Apple Watch 11 ยังมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 46 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร พร้อมใช้หน้าจอแบบ Retina พาแนล OLED ปรับความสว่างได้นานสูงสุด 2000nits และสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือความแข็งแกร่งของหน้าจอ ที่กันรอยขีดขวนได้ดีขึ้นเป็น 2 เท่าหากเทียบกับรุ่นที่แล้ว รวมไปถึงได้มาตรฐานกันฝุ่น IP6X และผ่านการรับรองมาตรฐาน WR50M กันน้ำได้ลึก 50 เมตร แต่ไม่ควรนำไปใช้ร่วมกับกิจกรรม ดำน้ำลึก หรือกิจกรรมทางน้ำที่ความเร็วสูง เช่น สกีน้ำ

ภายในยังใช้ชิป S10 ที่เป็นแบบ Dual-Core และ Neural Engine แบบ 4-Core ทำงานไปอย่างลื่นๆ ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานมีการพัฒนาเรื่องของการติดตามสุขภาพ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และค่าอุณหภูมิได้ดีขึ้น ด้วยเซนเซอร์ 2 ตัว รวมไปถึงระบบ ECG และช่วยวิเคราะห์ระดับความเครียด พร้อมให้คำแนะนำวิธีผ่อนคลายอย่างแม่นยำ

รายละเอียดอื่นๆ Apple Watch 11 ยังมีการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น เมื่อชาร์จเต็ม และใช้งานปกติจะใช้งานได้ราวๆ 24 ชั่วโมง หากเปิดโหมดประหยัดพลังงานจะใช้ได้ราวๆ 38 ชั่วโมง ทั้งนี้ยังรองรับการชาร์จเร็ว เมื่อชาร์จไป 15 นาที จะนำกลับมาใช้งานทั่วไปได้ 8 ชั่วโมง ไม่พอแค่นั้น Apple Watch 11 ในรุ่น Cellular จะรองรับเครือข่าย 5G และรองรับการสั่งการด้วยการบิดข้อมือ

เบื้องต้น Apple Watch 11 ยังไม่เปิดเผยวันวางจำหน่าย แต่มีประกาศราคาออกมาแล้ว โดยรุ่นอะลูมิเนียม มีราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท และไทเทเนียม มีราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท สามารถตามไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ที่อยู่ตรงนี้ https://www.apple.com/th/shop/buy-watch/apple-watch

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

ไฮไลท์ข่าวเด่น

อ่าน

แบ่งปันบทความ

มือถือออกใหม่