บทความก่อนเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับ [Discussion] อนาคตจะหมดยุคพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร เพราะถูกแทนที่ด้วย USB Type-C เหตุผลคืออะไร...? เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งปีดูเหมือนว่าก้าวข้ามผ่านพอร์ต Type-C สู่ยุคไร้สายแล้ว..
ปี 2017 โลกของสมาร์ทโฟนพัฒนาก้าวไกลอย่างก้าวกระโดด หลายคนคิดว่าน่าจะเดินมาถึงทางตันแล้ว ดูเหมือนว่ายังห่างกับประโยคนั้นมาก เพราะในที่สุดแล้วก็จะมีประเด็นที่ถูกหยิบยกมาต่อยอดได้อยู่ดี ยกตัวอย่างหน้าจออัตราส่วน 18:9 ย้อนกลับไปปีที่แล้วทุกแบรนด์ก็ต่างเน้นให้ความสำคัญเรื่องกล้องเดี๋ยวหน้าชัดหลังเบลอได้ดีขึ้นหรือเพิ่มลูกเล่นการถ่าย แต่วันเวลาล่วงเลยผ่านมาต้นปีอาจต้องขอบคุณซัมซุงและแอลจีที่เป็นผู้ปลุกกระแสอย่างแท้จริงทำให้การแสดงผลดังกล่าวเกิดความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว และอีกสองไฮไลท์ของปีนี้ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือระบบยืนยันตัวตนและก็ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้น

แต่เมื่อ Google เผยโฉมสองสมาร์ทโฟน Pixel 2 & Pixel 2 XL นอกจากฟีเจอร์เด่นแล้วยังมีประเด็นเกี่ยวกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรที่ตัดออกไป พร้อมแสดงความเห็นว่าฟังก์ชั่นดังกล่าวจะไม่อยู่ในแผนทำสมาร์ทโฟนอีกต่อไป โดยแสดงความเห็นว่าก้าวสูอนาคตให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์เสียงที่มีคุณภาพ รวมถึงเปิดโลกสู่หน้าจอไร้ขอบอย่างแท้จริง แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะพอใจ แต่ว่าหากเราจะก้าวเดินต่อไปจึงต้องมองหาเทคโนโลยีสู่อนาคตและไม่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง (อาจสื่อความหมายว่าถ้ายังยึดติดก็จะก้าวตามคู่แข่งไม่ทัน)

ทำไมหลายแบรนด์จึงเลือกตัดช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลเมตรออกไป

สำหรับประเด็นสุดท้ายถือว่าเป็นเรื่องที่ชวนติดตามไม่น้อยอย่างที่ทราบระบบ Wi-Fi กับ Bluetooth ต่างถูกพัฒนาควบคู่กับเทรนด์เทคโนโลยีของโลกใบนี้ด้วยเช่น ไม่ใช่เพียงแค่รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนแล้วแต่ครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อตอบโจทย์ Internet of Things มากขึ้นนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นระยะการเชื่อมต่อ ลดสัญญาณรบกวน รองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้มากขึ้น แม้แต่ระบบความปลอดภัยมีประสิทธิภาพขึ้นด้วยเช่นกัน จึงอธิบายได้ว่าทุกอย่างถูกผสมโรงเพื่อรองรับเทรนด์ไร้สายอย่างแท้จริง
ดังนั้นเมื่อทุกอย่างถูกตั้งบนความต้องการของโลกไร้สาย เมื่อยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่จึงถือว่ายังล้าหลังและไม่เกิดประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น เพราะตามที่บอกข้างต้นแค่ฟังเพลงแต่ไม่สามารถทำอะไรต่อยอดได้อีกเลย แล้วเทรนด์ไร้สายทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่างไร

1. หมดปัญหาเรื่องสายพันกัน : ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จแบตเตอรี่หรือหูฟังเชื่อว่าทุกคนต่างปวดหัว เพราะเก็บก็ลำบาก เก็บไม่ดีมีเสียหายใช้ไมไ่ด้เลย บางรายซื้อมาไม่ถึงสองสามวันพังแล้ว ดังนั้นเมื่อไร้สายก็ไม่ต้องเก็บสาย
2. ลดอุบัติเหตุ : หลายคนบอกว่าเกี่ยวอะไรกัน เคยประสบปัญหาสายของหูฟังไปเกี่ยวกับอะไรหรือไม่ เช่น เกี่ยวของตกแตกบ้างหรือเวลาขับรถยนต์เลือกใช้หูฟัง แต่พลาดพลั้งเวลาเอื้อมไปหยิบของอะไรก็ตามทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด
3. สัญญารบกวนน้อยลง คุณภาพเสียงดีขึ้น : เมื่อโลกเข้าสู่ยุคคอนเทนต์วิดีโอการฟังเสียงที่มีเอกลักษณ์ ไพเราะ และเข้าถึงห้วงอารมณ์ได้นั่นย่อมดีกว่าการฟังผ่านหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรกับข้อจำกัดการถ่ายทอดเสียงไม่เหมือนกับยุคไร้สายหรือผ่านพอร์ต USB Type-C

แต่ 3 ข้อข้างต้นเป็นเพียงปัจจัยส่งเสริมไม่ใช่ปัจจัยหลัก แล้วเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร
นอกจากปัจจัยเสริมที่ได้กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นคือ ความสามารถต่างๆ ของอุปกรณ์เสริมจำพวกหูฟัง ยกตัวอย่าง Pixel Buds ที่มีความสามารถแปลภาษาได้มากถึง 40 ภาษา แต่ก็ต้องทำงานผ่านสมาร์ทโฟนอยู่ดีด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ ทว่าในอนาคตเราอาจไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์อื่นเลยก็เป็นได้ แปลแบบเรียลไทม์จริงๆ
เช่น เมื่อนาย A พูดภาษาอังกฤษกับนาย B โดยทั้งสองไม่สามารถเข้าใจภาษาของแต่ละคนได้ ซึ่งเมื่อ A พูดบทสนทนาเสร็จหูฟังก็แปลทันทีอาจใช้เวลาพักหนึ่งแล้วค่อยแปลให้ฟัง เป็นต้น หลายคนอาจบอกว่าจะทำได้อย่างไร ส่วนตัวแล้วคงต้องพึ่งระบบ AI เพราะหากมองโลกตอนนี้เทคโนโลยีดังกล่าวได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในหลายๆ อุปกรณ์แล้ว กับแค่หูฟังทำไมจะเป็นไปไมไ่ด้ แต่โจทย์สำคัญที่ผู้ผลิตต้องแก้โซลูชั่นคือจะทำอย่างไรออกแบบเช่นใดกับข้อจำกัดเรื่องขนาด
เพราะฉะนั้นจึงสรุปสาเหตุที่หลายแบรนด์เริ่มตัดช่องหูฟังออกตามข้างต้น ก็เพื่อปูทางเข้าสู่ยุคไร้สายแบบแท้จริง อีกทั้งเป็นการเพิ่มฟีเจอร์แก่อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อกับสมาร์ทโฟนและที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเรียกได้ว่าต้องจับตาอีกปีสองปีข้างหน้าว่าจะมีเหล่า Gadget ใดที่น่าสนใจอีกบ้าง โดยฟังไร้สายที่มาพร้อมคุณสมบัติการแปลภาษาจะมากขึ้นตามเทรนด์โลก
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 14 ตุลาคม 2560
OPPO Find X9 Pro เรือธงกล้องเทพ Hasselblad ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9500 ความสว่างหน้าจอ 3600ni...
Nothing เปิดตัว Phone (3a) Community Edition สมาร์ตโฟนที่ออกแบบโดยคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานจริง
OnePlus 15R และ OnePlus Pad Go 2 ประกาศวันเปิดตัว พร้อมบอกสเปคบ้างส่วนบนหน้าเว็บไซต์
Redmi Note 15 Pro อาจมีรุ่น 4G ให้เลือก คาดใช้ชิป Helio G200 Ultra กล้องหลัง 200MP
Redmi Note 15 Series หลุดทั้งภาพ และข้อมูลสเปคก่อนเปิดตัวแบบ Global
vivo Y31 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นทนทานยันแบตเตอรี่ เริ่มวางขายในประเทศไทย
สมาร์ตโฟนรุ่นเล็กสเปคแรง สำหรับนักเรียน-นักศึกษา เริ่มต้นแค่ 3,000 บาท ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
รุ่นดังราคาดรอป! รวมสมาร์ตโฟนราคาพิเศษ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
realme C85 Series 5G ลุยได้ทุกจังหวะชีวิตด้วยแบต 7000mAh ราคาเริ่มต้น 5,xxx
iQOO 15 ท้าสัมผัสพลังเรือธง ที่เกิดมาเพื่อเหล่า MVPs 3 ธ.ค. นี้
5 สมาร์ตโฟนจอใหญ่ ถนอมสายตา เหมาะกับผู้สูงอายุ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ15 ธ.ค. 68 15:00