NEWS

สรุปสเปกและจุดเด่น Samsung Galaxy Tab S7|S7+ ใหม่สี Mystic Navy พร้อมอัปเดตปากกา S-Pen

แท็บเล็ต (Tablet) | วันที่ : 22 กุมภาพันธ์ 2564

แชร์

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

ต้องบอกว่าเป็นสัญญาณที่ดีเลย สำหรับอุตสาหกรรมแท็บเล็ต เพราะ Samsung ยังคงไม่ทิ้งตลาดนี้ โดยพวกเขาได้เปิดตัว Galaxy Tab S7|S7+ สองพี่น้องสเปกสุดโหด ตีโจทย์แตกเลยทีเดียว อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอีกด้วย แถมยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G กับ WiFi 6 อีกด้วย ดังนั้นบทความนี้จึงขอสรุปข้อมูลให้ได้ทราบกัน

เริ่มจากดีไซน์ของ Samsung Galaxy Tab S7|S7+

สำหรับแท็บเล็ตทั้งสองรุ่นมีดีไซน์ที่เหมือนกันเลย แตกต่างกันที่ขนาดของตัวเครื่องเป็นสำคัญ โดยจะสรุปให้ได้ทราบกัน....ส่วนของหน้าจอแสดงผลมีความแตกต่างกันด้วย เพราะ Samsung Galaxy Tab S7 ใช้หน้าจอประเภท LPTS-LCD ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซลให้ความสว่างสูงสุด 500 นิต ความหนาแน่นต่อพิกเซลอยู่ที่ 276ppi เกรดการแสดงผลเฉดสี DCI-P3 และมีมาตรฐานลดแสงสีฟ้า ต่อด้วยรุ่นพี่ Galaxy Tab S7+ หน้าจอประเภท Super AMOLED + HDR10 ขนาด 12.4 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1752 พิกเซลให้ความสว่างสูงสุด 500 นิต ความหนาแน่นต่อพิกเซลอยู่ที่ 266ppi เกรดการแสดงผลเฉดสี NTSC พร้อมมาตรฐานถนอมสายตา

ส่วนประเด็นการสแกนลายนิ้วมือ สำหรับ Galaxy Tab S7 อยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่อง โดย Galaxy Tab S7+ อยู่ที่บนหน้าจอแสดงผล

ขนาดของตัวเครื่องและน้ำหนัก

Galaxy Tab S7 : 165.3 x 253.8 x 6.3 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 498 กรัม (WiFi), 500 กรัม (4G) และ 502 กรัม (5G)
Galaxy Tab S7+ : 185 x 285 x 5.7 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 575 กรัม

ความเหมือนกันของทั้งสองรุ่นมีอะไรบ้าง

ต้องยกให้กับเรื่องของเสียง เพราะแท็บเล็ตทั้งสองรุ่นมีทั้งหมด 4 ลำโพง ตามมุมเครื่อง โดยมีมาตรฐานเสียงจาก AKG ให้พลังเสียงแบบ Dolby ATMOS พร้อมอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอแสดงผลถึง 120Hz จึงตอบโจทย์ความบันเทิงเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ไฮไลท์สำคัญคงอยู่ที่ปากกา S-Pen ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ที่ได้ใช้ปากกาเดียวกับใน Samsung Galaxy Note 20 Series ความพิเศษคือได้ใช้ซอฟต์แวร์ AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการพฤติกรรมการใช้งาน และเรียนรู้ไปพร้อมๆ ผู้ใช้ รวมถึงมีเซนเซอร์ gyro+accelerometer ทำให้เคลื่อนที่ในลักษณะการขีดเขียนได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ทั้งมีการทำงานคล้ายกับเคอร์เซอร์เมาส์ได้อย่างไหลลื่น นอกจากนี้ทางซัมซุงยังเคลมว่าลดความหน่วงได้อีก 80% เมื่อเทียบกับของ Galaxy Note 10 เพื่อการตอบสนองที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

ด้านกล้องดิจิตอล โดดเด่นด้วยสองเลนส์

สำหรับแท็บเล็ตทั้งสองรุ่นมีเลนส์กล้องหลังทั้งหมด 2 เลนส์ แบ่ง เป็น เลนส์หลัก Wide-angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มาพร้อมโหมดถ่ายกลางคืน, โหมด Hyperlapse และถ่ายกล้องหน้ากล้องหลังพร้อมกัน เป็นต้น ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

เปรียบเทียบสเปกของแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S7|S7+

	Samsung Galaxy Tab S7	Samsung Galaxy Tab S7+
ระบบปฏิบัติการ	Android 10 + Samsung One UI 2.5	Android 10 ครอบทับ Samsung One UI 2.5
หน้าจอ	LPTSLCD ขนาด 11 นิ้ว	Super AMOLED ขนาด 12.4 นิ้ว
หน่วยประมวลผล	Snapdragon 865+	Snapdragon 865+
GPU	Adreno 650	Adreno 650
RAM	6GB/8GB	6GB/8GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน	128GB/256GB	128GB/256GB
MicroSD Card	1TB	1TB
ระบบเชื่อมต่อ	5G, 4G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac,/ax Bluetooth 5.1, GPS, Glonass	5G, 4G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.1, GPS, Glonass
พอร์ตเชื่อมต่อ	USB Type-C 3.2 Gen 1	USB Type-C 3.2 Gen 1
ช่องเสียบหูฟัง	ไม่รองรับ	ไม่รองรับ
แบตเตอรี่	8,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45 วัตต์	10,090mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45 วัตต์

ราคาวางจำหน่าย

ราคาของ Samsung Galaxy Tab S7+

รุ่น 5G (RAM 8GB+ROM 256GB) ราคา 39,900 บาท
รุ่น 4G (RAM 6GB+ROM 128GB) ราคา 33,900 บาท
ตัวเลือกสี : Mystic Bronze (สีบลอนด์), Mystic Black (สีดำ)

ราคาของ Samsung Galaxy Tab S7

รุ่น 4G (RAM 6GB+ROM 128GB) ราคา 26,900 บาท
รุ่น Wi-Fi (RAM 6GB+ROM 128GB) ราคา 22,900 บาท

อย่างไรก็ตามทาง Samsung ประเทศไทยได้ประกาศวางจำหน่ายสีใหม่เพิ่มเติม คือ Mystic Navy โดยขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์ม Android 11 บนพื้นฐาน ONE UI 3.1 ที่ถูกปรับแต่งส่วนติดต่อผู้ใช้งานให้ล้ำหน้ายิ่งขึ้น เปรียบได้กับการใช้งานโน๊ตบุ๊คเลย เพื่องาน Presentation และงานกราฟิกต่างๆ รวมถึงระบบเสียง 360 องศา (360-degree surround sound) ที่เพิ่มมิติของเสียงรอบทิศทาง อีกทั้งตรวจจับลักษณะการใช้งานด้วย เพื่อถ่ายทอดเสียงได้เหมาะสมตามลักษณะการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมด้วย อาทิ...

1. S-Pen to text : การแปลเป็นตัวอักษรอัตโนมัติ เมื่อใช้ปากกาขีดเขียนตัวอักษรก็จะแปลงทันที ทำให้มีความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น การตั้งค่า คือ Advanced Feature > S Pen > S Pen to text หรืออีกหนึ่งทาง Settings > General management > Samsung Keyboard settings > S Pen to text เบื้องต้นฟีเจอร์นี้รองรับภาษาสากลแล้ว 80 ภาษา ส่วนภาษาอื่นๆ จะทยอยอัปเดต