NEWS

iPad 9th Generation และ iPad mini 6 อัพเกรดสเปกใหม่ จะ Work From Home หรือเรียนออนไลน์ก็ตอบโจทย์

แท็บเล็ต (Tablet) | วันที่ : 15 กันยายน 2564

แชร์

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

หลังจากเปิดตัว iPhone 13 Series (สรุปทุกข้อมูลที่ต้องรู้พร้อมราคา Apple iPhone 13 mini / iPhone 13 / iPhone 13 Pro / iPhone 13 Pro Max) ล่าสุดก็ยังเผยโฉมแท็บเล็ตรุ่น Hot Hit โฉมใหม่เช่นกัน สองรุ่น iPad 9th Generation และ iPad mini 6 สำหรับจุดเด่นและรายละเอียดต่างๆ จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย

ด้านการเชื่อมต่อ iPad 9th Generation จะรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงสุดแค่ 4G LTE ในขณะที่ iPad mini 6 รองรับการเชื่อมต่อ 5G

Apple iPad 9th Generation สามารถมอบประสบการณ์การทำงานทุกอย่างที่รวดเร็ว ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ตอบโจทย์งานเอกสารได้ในขณะเดียวกับที่ค้นหาข้อมูลในเว็บ หรือโทร FaceTime เพื่อติดต่อเพื่อนร่วมงานพร้อมๆ กัน หรือเพิ่มความสะดวกคล่องตัวด้วยการเชื่อมต่อ Smart Keyboard ขนาดมาตรฐานเพื่อการพิมพ์ที่สบายมือ ถ้าหากเป็นงานที่ต้องการความแม่นยำมากขึ้นก็สามารถใช้งานร่วมกับแทร็คแพด หรือเมาส์ที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์ที่คุณคุ้นเคยอย่าง Multi‑Touch ของ iPad ได้อีกด้วย

ขนาดตัวเครื่อง : 250.6 x 174.1 x 7.5 มม.
น้ำหนัก....
- โมเดล WiFi : 487 กรัม
- โมเดล WiFi+Cellular : 498 กรัม

ชิปเซ็ต A13 Bionic ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพได้อย่างน่าทึ่ง เกมจึงสมจริง ลื่นไหล GPU ที่เร็วขึ้นสูงสุด 20% มอบประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่คุณต้องการ ลงตัวสุดๆ สำหรับการเล่นเกมที่เต็มอิ่มสมจริง และอะไรอีกเยอะเต็มไปด้วยรายละเอียดอันเหลือเชื่อ ขุมพลังในการใช้งานแอปขั้นสูงอย่าง Adobe Fresco และ Procreate ได้แบบสบายๆ

สำหรับหน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Multi‑Touch IPS-แบ็คไลท์ LED ขนาด 10.2 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1620 พิกเซล ที่ 264 พิกเซลต่อนิ้ว (ppi) มีความสว่าง 500 นิต และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil มาพร้อมความบันเทิงอย่างลำโพงสเตอริโอแนวนอนด้านล่างตัวเครื่อง รองรับการเชื่อมต่อ Wi‑Fi 802.11a/b/g/n/ac (2.4GHz และ 5GHz) กับเทคโนโลยี Bluetooth 4.2 มีฟังก์ชั่น Touch ID เพื่อยืนยันตัวตน

กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลแบบไวด์ ออโต้โฟกัส รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น มีฟิลเตอร์ Hybrid IR และเซ็นเซอร์รับแสงด้วยส่วนหลัง พร้อมคุณสมบัติ Live Photos, พาโนรามา (สูงสุด 43MP), HDR สำหรับภาพถ่าย, โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง ทั้งมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ โดยสามารถบันทึกวิดีโอระดับ FullHD (1080p) ที่ 30 fps

รองรับวิดีโอสโลว์โมชั่นความละเอียด 720p ที่ 120 fps
ระบบป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหว ในการบันทึกวิดีโอปกติ, วิดีโอไทม์แลปส์ และการบันทึกแบบภาพยนตร์
รูปแบบไฟล์วิดีโอที่บันทึก: HEVC และ H.264

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล มุมมองภาพ 122 องศา รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 มีไฟแฟลช Retina โดยมีคุณสมบัติ Live Photos, HDR สำหรับภาพถ่าย, โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง, โหมดตั้งเวลาถ่ายภาพ สามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD (1080p)

สำหรับ iPad 9th Generation สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) ต้องซื้อแยก โดยมี 2 เฉดสี ได้แก่ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ โดยราคาวางจำหน่าย....

iPad 9th Generation รุ่นพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB

รุ่น WiFi : ราคา 11,400 บาท
รุ่น WiFi+Cellular : ราคา 16,400 บาท

iPad 9th Generation รุ่นพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB

รุ่น WiFi : ราคา 16,900 บาท
รุ่น WiFi+Cellular : ราคา 21,900 บาท

มาต่อกันที่ iPad mini (6th Gen) ความมหัศจรรย์ของ iPad ในมือคุณ

เริ่มจากดีไซน์มีดีไซน์สวยทันสมัย ตอบโจทย์แฟชั่นมากยิ่งขึ้น ด้วยเฉดสี 5 สไตล์ อาทิ สีม่วง, สีเทาสเปซเกรย์, สีชมพู และสีสตาร์ไลท์ โดยด้านบนตัวเครื่องมุมขวามีปุ่มโฮม พร้อมเซนเซอร์ Touch ID ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencle 2 และมีพินเชื่อมต่อ Magic Keyboard เพื่อให้คุณทำงานต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ลำโพงยังเป็นแบบสเตอริโอแนวนอนอีกด้วย ที่สำคัญเลยทางแอปเปิ้ลได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C เต็มตัวแล้ว

iPad mini (6th Gen) มีหน้าจอแสดงผล Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว ความละเอียด 2266 x 1488 พิกเซล ที่ความหนาแน่น 326 พิกเซลต่อตารางนิ้ว แบบ True Tone ที่มีขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และการเคลือบสารกันแสงสะท้อน ความสว่างสูงสุด 500 นิต

หน่วยประมวลผลชิปเซ็ต A15 Bionic ที่มาพร้อม CPU เร็วขึ้น 40% กราฟิกเร็วขึ้น 80% และการเรียนรู้ของระบบ พร้อม Neural Engine เจเนอเรชั่นถัดไปที่เร็วขึ้นสองเท่า พัฒนาร่วมกับ iOS 15 ทำให้สามารถคาดเดาพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ได้ ขณะที่แบตเตอรี่ทางแอปเปิ้ลเคลมว่าใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน ส่วนระบบการเชื่อมต่อมีทั้งโมเดล WiFi 6 กับโมเดล 4G LTE หากต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ สามารถทำได้โดยเทคโนโลยี Bluetooth 5.0

กล้องไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ชุดเลนส์ 5 ชิ้น พร้อมฟิลเตอร์ Hybrid IR มีเซนเซอร์รับแสงด้วยส่วนหลัง กับคุณสมบัติ Live Photos พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels หรือการแตะเพื่อโฟกัสพร้อม Focus Pixels โดยสามารถบันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้าง, พาโนรามา (สูงสุด 63 ล้านพิกเซล), การควบคุมค่าแสง, การลดนอยซ์, HDR อัจฉริยะสำหรับภาพถ่าย และรูปแบบไฟล์ภาพที่บันทึก: HEIF และ JPEG รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 30 fps หรือ 60 fps

กล้องหน้ารูปถ่ายขนาด 12 ล้านพิกเซล มุมมอง 122 องศา รูรับแสงขนาด ƒ/2.0 สามารถบันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้าง กับมีโหมด HDR อัจฉริยะ และ Retina Flash ทั้งมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ, โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง, การควบคุมค่าแสง และโหมดตั้งเวลาถ่ายภาพ