สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 24 ตุลาคม 2566

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ก่อนหน้านี้ได้แนะนำวิธีเลือกซื้อสมาร์ทโฟน Android ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง : ([คัมภีร์] มือถือปี 2023 ต้องซื้อแบบไหน? 5G จำเป็นไหมต่อเราจริงไหม รวมทุกข้อมูลไว้ให้แล้ว) ลำดับต่อไปมาดูฉบับมือใหม่ วิธีซื้อ iPhone มือสองทำยังไง ซื้อ iPhone มือสองต้องเช็คอะไรบ้าง ทําไมต้องซื้อ iPhone มือสอง

ก่อนจะไปดูวิธีการเลือกซื้อ iPhone มือสองฉบับปี 2023 มาดูเหตุผลหน่อยว่าการซื้อ iPhone มือสองมีคุณประโยชน์อย่างไร

จุดประสงค์ของ Apple คือต้องการออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานได้ยาวนาน โดยที่ยังคงประสิทธิภาพและความปลอดภัย แบบที่ยังให้การสนับสนุนเสมอจนกว่าจะหมดวาระของเครื่องนั้นๆ หมายความว่า iPhone จะมีประสิทธิภาพใช้งานได้นานกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ

จะซื้อ iPhone ต้องสำรวจตัวเอง พร้อมทำความรู้จัก และต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ?

1. สำรวจงบประมาณของตนเอง

ต้องบอกว่า iPhone ค่อนข้างมีราคาสูง เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วไป ไม่ว่าจะรุ่นปัจจุบัน หรือรุ่นเก่า ราคาก็ไม่ตกมาก แถมปีที่แล้ว ยังปรับราคาขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการคัดเลือกให้แคบลง ถ้าทำให้ง่ายขึ้นคือ กำหนดงบประมาณก่อนว่าตนเองมีงบแค่ไหน

2. เลือก iPhone ที่ยังมีสิทธิ์ได้รับการอัปเดตอย่างน้อย 3-4 ปี

พอได้ราคาแล้ว ถ้ามีงบจำกัด ช่วง 30,000 - 35,000 เราจะซื้อรุ่นไหนดี ไม่ใช่ว่าไปซื้อรุ่นไหนก็ได้ บางคนลังเล เจอรุ่นเก่า ประหยัดกว่า เลยลังเล หันไปซื้อ ประเด็นสำคัญคือ คุณต้องเลือกรุ่นที่ยังอัปเดตต่อไปในอีก 3-4 ปี ข้างหน้า 

นั่นหมายความว่า คุณต้องซื้อ iPhone 12 Series เป็นอย่างน้อย ไปจนถึง iPhone 14 Series ถ้าซื้อ iPhone 11 Series ที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 ไม่แน่อีกสองสามปีก็จอดป้าย หยุดอัปเดตแล้ว

3. รุ่นปกติ (mini), รุ่น Plus, รุ่น Pro และรุ่น Pro Max ต่างกันอย่างไร

ไม่ต้องแปลกใจไป สำหรับโมเดล iPhone ปัจจุบัน ประกอบไปด้วย 4 รุ่นย่อย (และยกเลิกบางรุ่นไปแล้ว) แต่ละรุ่น มีความแตกต่างสำคัญดังนี้

  • รุ่นปกติ (mini) : รุ่นเริ่มต้น หน้าจอเล็ก แบตเตอรี่ความจุน้อยสุด ดีไซน์กะทัดรัดเน้นความคล่องตัว พกพาสะดวก
  • รุ่นปกติ : คือรุ่น mini เดิมนั่นเอง ซึ่ง Apple ได้เลิกใช้คำว่า mini แล้ว แต่จุดยืนของรุ่นนี้ยังเหมือนเดิม คือ รุ่นเริ่มต้น หน้าจอเล็ก แบตเตอรี่ความจุน้อยสุด ดีไซน์กะทัดรัดเน้นความคล่องตัว พกพาสะดวก
  • รุ่น Plus : Apple นำรุ่นย่อย Plus มาใช้อีกครั้ง หลังจากหายไปพักใหญ่ ตั้งแต่ iPhone 8 Plus ซึ่งรุ่นย่อยดังกล่าว จะมีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น แบตเตอรี่มากขึ้น จุดเด่นและสเปคไม่แตกต่างกับรุ่นปกติ
  • รุ่น Pro : อัปเกรดทั้งจุดเด่นและสเปค แต่หน้าจอยังเล็กเหมือนเดิม
  • รุ่น Pro Max : ที่สุดของการรวมความโดดเด่นไว้แล้ว หน้าจอใหญ่ขึ้น แบตเตอรี่จุเยอะกว่าเดิม 

4. ชอบเล่นเกม ชอบใช้หน้าจอลื่นๆ ต้องเลือกรุ่นย่อน Pro หรือ Pro Max เท่านั้น : โดยทั้งสองโมเดล มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz แตกต่างจากรุ่นย่อยอื่นที่มีอัตรารีเฟรชเรท 60Hz เท่านั้น ดังนั้นหากคุณหมายตาประเด็นนี้เป็นหลัก ต้องมองตั้งแต่รุ่น...

เมื่อทำความรู้จัก iPhone แล้ว มาดูวิธีซื้อ iPhone มือสองทำยังไง ซื้อ iPhone มือสองต้องเช็คอะไรบ้าง

1. มองหาตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ : หากคุณมีเงินเป็นหมื่น เชื่อเถอะครับ เดินไปศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ มีพนักงานบริการและการรับประกันชัดเจน หากมีอะไรผิดพลาด คุณเองจะได้แก้ไขตรวจเครื่องหรือเปลี่ยนเครื่องได้อย่างสบายใจ หลีกเลี่ยงการซื้อผ่านตู้ลอยต่างๆ

2. พอหาตัวแทนจำหน่ายได้แล้ว ดูก่อนเลยว่า เครื่องนั้นถูก Lock อยู่หรือไม่ : หลายคนอาจโดนบิดเบือนจากความจริง ถือว่าเป็นจุดสำคัญมากที่คุณต้องตรวจสอบ ถ้าหาก iPhone ถูกล็อคอยู่ และผู้ขายแจ้งว่าราคาถูกกว่าปกติ ทั้งต้องจ่ายเงินเพื่อปลดล็อค นั่นคือคุณกำลังโดนหลอก สามารถคิดได้เลยว่า ตู้นี้รับซื้อของโจร อาจเป็น iPhone ที่ถูกขโมยมาก็เป็นได้

  • วิธีแก้ : ต้องให้ผู้ขายทำการปลดล็อคให้ และเรา (ผู้ซื้อไม่ควรเสียเงินเอง) ซึ่งถ้าเป็น iPhone ที่ได้มาอย่างถูกต้อง ผู้ขายจะดำเนินการให้อย่างง่ายดาย ทั้งต้องลบข้อมูลภายในเครื่องได้ เมื่อลบเสร็จสิ้น เปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง คุณจะต้องเห็นคำว่า "

    หน้าจอสวัสดี"

3. ตัดสินใจซื้อแล้ว ต้องตรวจสอบรอบตัวเครื่อง : เมื่อตัดสินใจซื้อแล้ว ควรตรวจสอบตั้งแต่กล่องบรรจุภัณฑ์ว่าเรียบร้อยหรือไม่ มีการแกะแล้วหรือยัง ซีลถูกปิดเรียบร้อย หากพบเจอว่าไม่ปกติ แจ้งเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทันที ... ความเสียหายร้ายแรงอาจส่งผลต่อการทํางานของ iPhone 

  • ควรถอดเคสและอุปกรณ์เสริมออกจาก iPhone เพื่อตรวจสอบรอยขีดข่วนบนหน้าจอแสดงผล รวมถึงด้านข้างและด้านหลังตัวเครื่องเพื่อหารอยขีดข่วนและรอยบุบ
  • ตรวจสอบขั้วต่อ Lightning หรือ Type-C เพื่อหาความเสียหายหรือเศษฝุ่น เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพการชาร์จแบตเตอรี่กับถ่ายโอนข้อมูล
  • ควรเปิด iPhone เพื่อทดสอบ ถ้าเปิดไม่ติด แบตเตอรี่อาจหมด ลองชาร์จ iPhone ดู หากแบตเตอรี่ไม่ชาร์จ อย่าซื้อ iPhone เครื่องนั้น

3. ตรวจสอบปุ่ม, การควบคุม และสุขภาพแบตเตอรี่ : เมื่อเปิดเครื่องแล้ว ก็ทำการทดสอบ เมนูการใช้งาน ปุ่มควบคุมต่างๆ ให้ครบถ้วน ที่สำคัญ เครื่องใหม่ ต้องแสดงสุขภาพของแบตเตอรี่ที่ 100% เท่านั้น เข้าไปตรวจสอบได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Battery (แบตเตอรี) > Battery Health (สุขภาพแบตเตอรี) หากพบเจอว่าไม่ปกติ แจ้งเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทันที

    • การทดสอบลำโพง : เลื่อนสวิตช์เปิดเสียง/ปิดเสียงไปข้างหน้า โดยไปทางจอแสดงผลของอุปกรณ์ เพื่อให้ไม่ปรากฎเป็นสีส้ม ไปที่การตั้งค่า > เสียง (หรือการตั้งค่า > เสียงและการสั่น) แล้วลากแถบเลื่อนระดับเสียงเรียกเข้าและเสียงเตือนไปมาสองสามครั้ง หากคุณไม่ได้ยินเสียงใดๆ แสดงว่าอาจมีปัญหากับลําโพง
    • การทดสอบไมโครโฟน : เปิดแอปฯ เสียงบันทึก แตะปุ่มบันทึก พูดสองสามคํา จากนั้นหยุดการบันทึก เมื่อเล่นเสียงบันทึก คุณควรได้ยินเสียงของคุณอย่างชัดเจน ถ้าไม่ได้ยิน แสดงว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับไมโครโฟน
    • การทดสอบกล้อง : เปิดกล้องถ่ายภาพ และถ่ายสองสามภาพ หรือบันทึกวิดีโอในที่แสงน้อยและสว่าง พร้อมแตะที่หน้าจอบริเวณที่คุณต้องการโฟกัส จากนั้นดูภาพหรือวิดีโอ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาพนั้นคมชัดและอยู่ในโฟกัส

  •  

4. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของหน้าจอ : ทดสอบหาจุดพิกเซลของหน้าจอประเภท OLED วิธีสังเกต เมื่อเปิดดูภาพสีใดใน 5 สี คือ ดำ ขาว แดง เขียวและน้ำเงิน สีนั้นจะต้องแสดงเป็นสีเดียวกันทั้งหมด เช่น ทดสอบสีดำจอต้องดำหมดห้ามมีจุดสีขาวขึ้นมา (ถ้ามีจุดสีขาวโผล่มาเรียก Bright Pixel) หรือทดสอบสีขาวห้ามมีสีดำโผล่มา (ถ้ามีดำโผล่มาเรียก Dead Pixel) หากพบเจอ แจ้งเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทันที

  • ตรวจสอบผ่านช่องทาง : lcdtech.info แค่เข้า Safari ก็ทำการทดสอบได้เลย

5. ตรวจสอบความคุ้มครองของอุปกรณ์ : หากตัวเครื่องภายนอกไม่มีอะไรผิดปกติ ขั้นตอนต่อมาคือเปิดเครื่องเพื่อตรวจประกันความคุ้มครอง ปกติแล้วจะได้รับความคุ้มครอง 1 ปี นับจากวันซื้อ แต่ต้องเป็นเครื่องใหม่จากศูนย์หรือตัวแทนจำหน่าย ประกันจะคุ้มครองวันแรกที่ซื้อเท่านั้น สามารถตรวจสอบประวัติการเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ที่ .... ตรวจสอบว่าเคยมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือไม่ ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ

  • หาก iOS เป็นเวอร์ชั่น 15.2 หรือใหม่กว่า คุณอาจเห็นส่วนประวัติชิ้นส่วนและบริการตามหลังหมายเลขประจำเครื่อง โดยขึ้นอยู่กับรุ่นของ iPhone และหากมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนแล้ว
  • วิธีทําความเข้าใจส่วนประวัติชิ้นส่วนและบริการมีดังนี้
    • หากชิ้นส่วนถูกระบุว่าเป็นชิ้นส่วนของแท้จาก Apple แสดงว่ามีการเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้นด้วยชิ้นส่วนของแท้จาก Apple โดยใช้ชิ้นส่วนของแท้และกระบวนการของ Apple
    • หากชิ้นส่วนถูกระบุว่าเป็นชิ้นส่วนที่ไม่รู้จัก หมายความว่าการติดตั้งไม่สมบูรณ์ หรือชิ้นส่วนนั้นถูกเปลี่ยนด้วยชิ้นส่วนที่ไม่ใช่ของแท้ เคยใช้หรือติดตั้งใน iPhone เครื่องอื่น หรือไม่ทํางานตามที่คาดไว้

6. สำคัญมาก รอบเครื่องปกติ แต่ลืมตรวจสอบผู้ให้บริการเครือข่าย : iPhone ปัจจุบันมีระบบ E-SIM ที่เป็นการผูกเบอร์ไว้กับผู้ให้บริการเครือข่ายนั้นๆ ถ้าเราไม่ตรวจสอบ ซื้อมาแล้วจะใช้งานเครือข่ายอื่น นอกจากที่ผู้ไว้ไม่ได้ สามารถตรวจสอบได้ที่ ... 

  • ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ หาก "ไม่มีการจำกัดซิม" ปรากฏขึ้นถัดจากการล็อคผู้ให้บริการ แสดงว่า iPhone ปลดล็อคอยู่ หากคุณเห็นผู้ให้บริการ แสดงว่า iPhone เครื่องนี้สามารถใช้กับผู้ให้บริการรายนั้นได้เท่านั้น

7. ใช้แต่อุปกรณ์แท้เท่านั้น : ต้องบอกว่าอุปกรณ์ของ iPhone ค่อนข้างมีราคาสูง หลายคนที่ไม่คาดคิดหรือสู้ราคาไม่ไหว ก็หันไปใช้ทางเลือกอื่นๆ แต่อย่าลืมผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอันตรายกว่าที่คุณคิด ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์หรือสายชาร์จ นอกจากนี้หากซื้ออุปกรณ์ใดก็ตาม โดยเฉพาะสายชาร์จอย่าลืม มองหา คำว่า MFI หรือ "Made for iPhone" คือมาตรฐานที่การันตีการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ iDevice ได้อย่างไรปัญหา

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่