ศึกเพียวแอนดรอยด์ Moto G50 vs Nokia G50 ราคาต่างกันประมาณ 1,000 บาท เลือกอะไรดี

ต้องบอกว่าแบรนด์ Nokia และ Motorola ในปี 2021 นี้ ตั้งชื่อรุ่นสมาร์ทโฟนเหมือนกันเลยจริงๆ ดังนั้นจึงขอหยิบยกนำมาเปรียบเทียบเล่าสู่กันฟัง ความแตกต่างระหว่าง Motorola Moto G50 กับ Nokia G50 กันหน่อย เพราะมีจุดเด่นที่เป็นเพียวแอนดรอยด์ทั้งสองรุ่น ทว่าโนเกียจะมีภาษีดีกว่าเพราะการันตีการอัปเดต OS นาน 2 ปี และแพทช์ความปลอดภัยต่อเนื่องนาน 3 ปี ส่วนความแตกต่างอื่นๆ มีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย

เริ่มกันที่จุดเด่นของทั้งสองรุ่นระหว่าง Motorola Moto G50 กับ Nokia G50 โดยจะสรุปใจความสำคัญ ดังนี้...

Moto G50 5G ชูจุดเด่นแบตเตอรี่เยอะเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใช้งาน 5G ได้ ซึ่งเป็นไปตามที่ทางแบรนด์ได้วางกลยุทธ์การทำธุรกิจไว้ว่าในปีนี้ของพวกเขาจะเต็มไปด้วยสมาร์ทโฟน 5G และเจ้ารุ่นนี้เป็นซีรีย์ที่ประสบความสำเร็จในหลายๆ ประเทศ จุดเด่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม หน้าจอขนาดใหญ่ "Max Vision" ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตรารีเฟรชเรท 90Hz ส่วนกล้องหลังมีสามเลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล

ตัวเครื่องด้านหลังเป็นพลาสติกทำลวดลายเท็กเจอร์พิเศษ เคลือบสารป้องกันน้ำ ตามแบบฉบับโมโตโลร่า บริเวณโลโก้ด้านหลังตัวเครื่องมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ถ้าไม่อยากใช้ก็มีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ทางแบรนด์เคลมว่าใช้งานทั่วไปได้นานสองวัน

Nokia G50 5G นอกจากรองรับสัญญาณ 5G แล้ว มีกล้องหลังมาถึง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Ultra-Wide ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ด้านตัวเครื่องมีสารนาโนป้องกันละอองน้ำ และความชื้น

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์ โดยแบตเตอรี่ทางแบรนด์ก็เคลมว่าใช้งานทั่วไปนานสองวันเช่นกัน มาพร้อมหน้าจอแสดงผล LCD กว้าง 6.82 นิ้ว ถือว่าใหญ่เต็มตามมากๆ ตอบโจทย์การเล่นเกม หรือรับชมคอนเทนต์วิดีโอได้เพลิดเพลิน มีความละเอียด HD+ ปรับความสว่างได้สูงสุด 450nits และใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ส่วนปุ่ม Power จะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเช่นกัน และมีระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า

สรุปสเปคกล้องดิจิตอลมีความแตกต่างกัน รายละเอียดดังนี้

Moto G50 5G

• กล้องหลัก : ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล จุดความหนาแน่น 1.6μm รูรับแสง f/1.7 ออโต้โฟกัส
• กล้องสอง : เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จุดความหนาแน่น 1.75μm รูรับแสง f/2.4
• กล้องสาม : เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จุดความหนาแน่น 1.75μm รูรับแสง f/2.4
• กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
• กล้องหน้า : ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 จุดความหนาแน่น 1.12μm รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และ HD ที่ 120 เฟรมต่อวินาที

Nokia G50 5G

• กล้องหลัก : ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ออโต้โฟกัส
• กล้องสอง : เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องสาม : เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
• กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และ HD ที่ 120 เฟรมต่อวินาที

เปรียบเทียบสเปคระหว่าง Moto G50 5G กับ Nokia G50 5G

สรุปความแตกต่างของทั้งสอง

สำหรับทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นและสเปคคล้ายกันมาก จุดแตกต่างที่สำคัญได้แก่ Moto G50 5G จะมีหน้าจออัตรารีเฟรชเรท 90Hz เท่านั้น และราคาถูกกว่า อีกฝั่ง Nokia G50 5G จะโดดเด่นในแง่การการันตีการอัปเดตนาน และมีหน้าจอขนาดใหญ่กว่า กับ RAM 6GB ที่มากกว่า พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18 วัตต์ เมื่อเทียบกับ Moto G50 5G ที่มีความเร็วแค่ 15 วัตต์เท่านั้น

สำหรับ Nokia G50 5G มีราคาวางจำหน่าย 8,590 บาท ในส่วนของ Moto G50 5G มีราคา 7,499 บาท แตกต่างกันในแง่ของราคาประมาณ 7,499 บาท ราคาห่างกันประมาณ 1,091 บาท อย่างไรก็ตามใครชอบใจรุ่นไหนก็สามารถเลือกได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  13 สมาร์ตโฟน 5G รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2025
• 
  รีวิว realme 14 5G สมาร์ตโฟน Performance Dominator แห่งปี พร้อมฟีเจอร์ AI และสเปคแบบจัดเต็ม

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่