MediaTek Dimensity 8200 ชิปเซ็ตน้องๆ ตัวท็อป รองรับเทคโนโลยี Ray tracing

MediaTek ได้ประกาศเปิดตัวชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8200 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ในตระกูลรองท็อปอย่าง Dimensity 8000 Series โดยมารอบนี้ได้เป็นชิปเซ็ตขนาด 4 นาโนเมตร และเอาใจนั่งเล่นเกมด้วยระบบ HyperEngine 6.0 ที่จะมาสนับสนุนระบบ Vulkan SDK เพื่อใช้งานเทคโนโลยี Ray tracing ในการเล่นเกม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มอัตรา FPS และการปรับแต่งอย่างชาญฉลาด

MediaTek Dimensity 8200 คอร์ภายในยังเป็นแบบ Octa-Core แต่จะมี 1 Core ใหญ่ Cortex-A78 ความเร็วสูงถึง 3.1GHz ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซีรี่ย์นี้ที่จะมีคอร์ใหญ่มาด้วย ส่วนอีก 3 คอร์มีไว้สำหรับประสิทธิภาพ ความเร็ว 3.0GHz และอีก 4 คอร์เป็น Cortex-A55 ความเร็ว 2.0GHz สำหรับประหยัดพลังงาน

ส่วนการรองรับฟังก์ชั่นต่างๆ ในสมาร์ทโฟนจะมีการอัปเกรดมากขึ้น โดยเริ่มกันที่กล้องถ่ายรูปที่รองรับความละเอียดสูงสุด 320MP บันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่ 60fps (HDR10+) มีชิป Imagiq 785 ISP เพื่อช่วยในเรื่องการถ่ายรูปให้ดีขึ้น

ต่อมาเป็นเรื่องของประสิทธิภาพซึ่งทำได้ดีกว่ารุ่นก่อน โดยเฉพาะการเล่นเกมที่ใส่เทคโนโลยี HyperEngine 6.0 ช่วยให้เล่นเกมได้ดีชึ้น พร้อมภาพของเกมมีความสวยงามขึ้น และยังรองรับเทคโนโลยี Ray tracing ส่วนอัตรา Refresh Rate ก็มีระบบจัดการที่ฉลาดมากขึ้น โดยชิปจะปรับแต่ง Refresh Rate ให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติในระหว่างเล่นเกม

ในขณะที่การเชื่อมต่อ จะรองรับสัญญาณ 5G แบบ Dual ดาวน์โหลดด้วยความเร็วสูงสุด 4.7Gbps, Wi-Fi 6E (2x2), และ Bluetooth 5.3 ทั้งนี้ยังรองรับความละเอียดหน้าจอแบบ FHD+ อัตรา Refresh Rate สูงสุด 180Hz และความละเอียด WQHD+ อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz

เบื้องต้นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้งานจะเป็น iQOO Neo7 SE ซึ่งมีการเปิดตัวไปแล้วในประเทศจีน และอาจจะมี Redmi K60E ตามมา (ยังไม่ยืนยัน) ส่วนรุ่นอื่นๆ ยังต้องรอข่าว และการเปิดตัวต่อไป สุดท้าชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8200 เป็นอีกชิปเซ็ตที่น่าสนใจพอสมควร ซึ่งให้ความแรง พร้อมการตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดี และสมาร์ทโฟนที่ใช้ก็ไม่น่าจะแรงเกินไปในระดับเรือธง

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  13 สมาร์ตโฟน 5G รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2025
• 
  รีวิว realme 14 5G สมาร์ตโฟน Performance Dominator แห่งปี พร้อมฟีเจอร์ AI และสเปคแบบจัดเต็ม

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่