วัดกันหน่อย Samsung Galaxy A55 5G vs Redmi Note 13 Pro Plus 5G ราคาเท่ากัน แตกต่างอย่างไร!

เป็นสองรุ่นที่ใครหลายคนชอบชื่อ พร้อมกับตั้งคำถามว่า เลือกรุ่นไหนดี แตกต่างกันอย่างไร ระหว่าง Samsung Galaxy A55 5G vs Redmi Note 13 Pro Plus 5G แต่จะเป็นรุ่นพิเศษนะ Xiaomi Fan Festival Special Edition สี Mystic Silver โดยเป็นเวอร์ชั่น RAM 12GB + ROM 512GB ในราคา 15,990 บาท ซึ่งแตกต่างกับทางซัมซุงอยู่เก้าบาทเท่านั้น บทความนี้จะสรุปข้อสงสัยให้ได้ทราบกัน พร้อมสรุปสเปค

เริ่มกันที่สรุปจุดเด่นของทั้งสองรุ่นมีอะไรบ้าง

Samsung Galaxy A55 5G การการันตีอัปเดต OS นาน 4 ปี และแพทช์ความปลอดภัยนาน 5 ปี นั่นหมายความว่าคุณใช้งานยาวๆ ไปถึง Android 16 กันเลยทีเดียว หน้าจอประเภท Super AMOLED ที่มีฟีเจอร์ Vision Booster ที่ช่วยให้คุณมองเห็นกลางแจ้งได้อย่างคมชัดแม้ว่าจะรับชมอยู่ท่ามกลางแดดจ้าก็ตาม กับความสว่างหน้าจอมากถึง 1000nits นอกจากนี้มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz พร้อมมาตรฐานถนอมสายตาจาก SGS อีกทั้งหน้าจอแสดงผลยังครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass Victus+ มีความแข็งแรงต่อรอยขีดข่วนได้อย่างดี

Samsung Galaxy A55 5G ประมวลผลรวดเร็ว ด้วยชิปเซ็ต Exynos 1480 พร้อมระบบระบายความร้อนที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนถึง 74% จึงใช้งานด้านต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้มีมาตรฐานความปลอดภัย Samsung Knox Vault ที่ได้รับการรับรองโดย EAL5+ นั้นออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลอ่อนไหวของคุณ เช่น รหัส PIN, รหัสผ่าน และรูปแบบการลากรหัสผ่านของคุณ

Redmi Note 13 Pro+ 5G มาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงสุดถึง 200 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง อัตรารีเฟรชเรท 120Hz แบบ AMOLED ครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass Victus ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200 Ultra แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh มีชาร์จเร็ง 120W (อะแดปเตอร์แถมมาให้ในกล่อง) สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ในเวลาเพียง 19 นาที กับมาตรฐานป้องกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP68

สำหรับคนที่ชอบเล่นเกม Redmi Note 13 Pro+ 5G มีอัตราการตอบสนองการสัมผัสทันทีที่ 2160Hz และเทคโนโลยีสัมผัสความละเอียดสูงพิเศษ 16 เท่า ในโหมด Game Turbo ทำให้ตอบสนองต่อการสัมผัสได้รวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ไม่หัวร้อนขณะต้องทำแต้ม แถมเพิ่มอรรถรสมันส์ๆ ผ่านทางลำโพงคู่และเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้ได้ระบบเสียงรอบทิศทาง

สเปคเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A55 5G

ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับ OneUI 6.0
ขนาดตัวเครื่อง : 161.1 x 77.4 x 8.2 มม.
น้ำหนัก : 213 กรัม
หน้าจอ : Super AMOLED อัตรารีเฟรชเรท 120Hz ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (FullHD+)
หน่วยประมวลผล : Exynos 1480
GPU : Xclipse 530
RAM : 8GB/12GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB/256GB
MicroSD Card : สูงสุด 1TB
ระบบเชื่อมต่อ : 5G, 4G, Wi-Fi 802.11a/b/g/n 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.3, GPS, GLONASS, A-GPS, NFC
ไม่รองรับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
พอร์ต : USB Type-C
ถาดซิมการ์ดประเภท Hybrid-Slot
มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP67
กล้องหลัง : แบ่งเป็น 3 เลนส์ รายละเอียดดังนี้
- ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX906 ออโต้โฟกัส รูรับแสง f/1.8 ออโต้โฟกัส มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
- เลนส์ Ultra-Wide : ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์มาโคร : 4 ซม. ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K (3840x2160 พิกเซล) ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
กล้องหน้า : ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
ลำโพงสเตอริโอ พร้อมเทคโนโลยีเสียง Dolby ATMOS
แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25 วัตต์ (ไม่แถมอะแดปเตอร์ในกล่อง)

สเปคพื้นฐานของ Redmi Note 13 Pro+ 5G

ระบบปฏิบัติการ : MIUI 14 บนพื้นฐาน Android 14
ขนาดตัวเครื่อง : 161.4 x 74.2 x 8.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 204.5 กรัม
หน้าจอแสดงผล : CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712x1220 พิกเซล อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz แสดงผลเฉดสี 12bits ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1800nits มีเทคโนโลยี HDR10+ กับ Dolby Vision
ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 7200-Ultra
GPU : Mali-G610 MP4
RAM : 12GB LPDDR5
ROM : 512GB แบบ UFS 3.1
กล้องหลัง 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED
- กล้องเลนส์หลัก : ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ ISOCELL HP3 ขนาด 1/1.4 นิ้ว รูรับแสง f/1.65 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS พร้อมชุดเลนส์ 7 ชิ้น
- กล้องเลนส์ Ultra-Wide : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้องเลนส์ Macro : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ระบบเชื่อมต่อ : 5G / 4G LTE, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC
พอร์ต USB Type-C
ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo ระบบ Dolby Atmos
แบตเตอรี่ : ความจุ 5000mAh เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120 วัตต์

หลังจากเปรียบเทียบกัน ต้องบอกว่า สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 Pro+ 5G ดูดีมีภาษีมากเลยทีเดียว มีจุดเด่นกับสเปคที่กินขาด แต่ถ้าต้องเลือกซื้อ คงต้องตัดสินใจจากดีไซน์ภายนอกและแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ ค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร

สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่นพิเศษ Xiaomi Fan Festival มาในสี Mystic Silver รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในราคา 15,990 บาท ที่ร้าน Xiaomi Store ทั่วประเทศ