ต้องบอกว่าหูฟัง In-ear ไร้สายแบบ Truely Wireless กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งทาง JBL ผู้นำด้านลำโพงและหูฟัง ก็โดดร่วมวงในศึกครั้งนี้ด้วย จึงได้เผยโฉมออกมาเป็น JBL FREE หูฟัง In-ear ไร้สายแบบ Truely Wireless รุ่นแรกของค่าย และยังให้พลังเสียงทรงพลังตามเอกลักษณ์ของ JBL รวมไปถึงพลังแบตเตอรี่ที่ใช้รวมได้นานถึง 24 ชั่วโมง แต่ความพิเศษยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ทีนี่มาดูเลยดีกว่าฟีเจอร์ทั้งหมดของ JBL FREE มีอะไรบ้าง

การออกแบบหูฟัง
JBL Free มีการออกแบบคล้ายๆ กับหูฟังไร้สาย In-ear แบบ Truely Wireless รองรับการสั่งการด้วยปุ่มจากทั้ง 2 ฝั่ง และมีไฟบอกสถานะอยู่บริเวณรอบปุ่มกด โดยสามารถนำไปใส่ฟังขณะออกกำลังกายได้ เนื่องจากมีจุกยางที่กระชับหู (แต่หากหลวมหรือแน่นไปก็มียางให้เปลี่ยน 3 ขนาด S, M, L) และได้รับมาตรฐานกันน้ำ IPX5 ทำให้หมดกังวลเรื่องเหงื่อไปได้เลย

เคสแบตเตอรี่
สำหรับ เคสแบตเตอรี่ จะมาเป็นทรงกลมเปิดฝาออกได้ โดยข้างในจะมีช่องสำหรับใส่หูฟัง JBL Free เพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ และมีไฟบอกสถานะ 4 จุดอยู่ทางด้านล่าง ส่วนการชาร์จไฟเข้าสู่ เคสแบตเตอรี่ จะสามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ต Micro USB ตรงด้านข้างได้

พลังเสียง
หลายๆ คนที่ติดใจและเป็นแฟนคลับของ JBL ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังเสียงจากอุปกรณ์ของ JBL มีความเป็นเอกลักษณ์ ดื่มด่ำในการฟังเพลงได้ทุกแนว พร้อมกับมีเสียงเบสที่นุ่มลึก ซึ่ง JBL Free ก็ยังไม่ทิ้งจุดเด่นตรงนี้ไปเช่นกัน

ใช้งานรวมได้ 24 ชั่วโมง
ในเรื่องของระยะเวลาการใช้งาน JBL Free สามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่องนาน 4 ชั่วโมง และเคสแบตเตอรี่ก็มีการสำรองได้ถึง 20 ชั่วโมง ซึ่งรวมแล้วเป็น 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องต่อสายไฟชาร์จแบตเตอรี่ ทั้งนี้ยังมีระบบ Quick Charge ที่ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เพียง 15 นาที ก็เล่นเพลงได้นาน 1 ชั่วโมงแล้ว

คุยโทรศัพท์ผ่านหูฟังได้เลย
เนื่องจากหูฟัง JBL Free มีไมโครโฟนในตัวทำให้สนทนาผ่านหูฟังได้ และสามารถรับสายและวางสายได้ทันที ด้วยการปุ่มจากหูฟังฝั่งขวา 1 ครั้ง

การเชื่อมต่อ
เมื่อแกะกล่องออกมาครั้งแรก ให้นำหูฟัง JBL Free ทั้ง 2 ข้างใส่ในเคสแบตเตอรี่ จากนั้นหยิบเฉพาะหูข้างขวาออกมา จะเห็นไฟแจ้งสถานะเป็นไปสีน้ำเงินกระพริบ จากนั้นทำการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ทโฟน เลือกเชื่อมต่อกับ JBL Free และหยิบหูฟังข้างซ้ายออกมาจากเคสแบตเตอรี่ เท่านี้ก็เป็นการเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติแล้ว และเมื่อเลิกใช้งานให้เก็บหูฟังทั้ง 2 ข้างลงไปในเคส จะเป็นการตัดการเชื่อมต่อทันที หรือกดหูฟังฝั่งขวาข้างไว้ 5 วินาที ก็เป็นการหยุดการใช้งานเช่นกัน

ในการเชื่อมต่อครั้งต่อไป สามารถหยิบหูฟังทั้ง 2 ข้างมาใส่หูได้ทันที และเปิด Bluetooth เพื่อทำการเชื่อมต่อ

ส่วนการเชื่อมต่อแบบ Manual ให้กดปุ่มตรงหูฟังฝั่งขวาค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาทีจะเป็นการเริ่มใช้งาน จากนั้นเปิด Bluetooth จากสมาร์ทโฟนเลือกเชื่อมต่อ JBL Free หากหูฟังมีเสียงออกเพียงแค่ข้างขวา ให้กดปุ่มทางหูฟังฝั่งซ้ายค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที จะมีเสียงเตือนว่ากำลังเชื่อมต่อหูฟังทั้ง 2 ข้าง

วิธีการใช้งาน


สเปคของ JBL Free

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ก็ถือว่าหูฟัง JBL Free เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในขณะทีเดียว เพราะในเรื่องของกระแสหูฟัง In-ear แบบ Truely Wireless ที่กำลังได้รับความนิยม ประกอบกับแบรนด์ JBL ขึ้นชื่อเรื่องหูฟังอยู่แล้ว น่าจะได้ใจลูกค้าแบบเต็มๆ ไปอีกรุ่น โดยสนราคาอยู่ที่ 5,990 บาท และสามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-2560020 และ www.mahajaklife.com
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 21 มีนาคม 2561
HUAWEI FreeClip 2 หูฟังไร้สาย Clip-On เสียงดีขึ้น เบาขึ้น และคุยสายได้เนียนขึ้น
Samsung เปิดตัว 60W Power Adapter เตรียมการ Galaxy S26 Series และอุปกรณ์อื่นๆ ในปี 2026
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ
รีวิว iPad Pro M5 เพิ่มความแรงอีกขั้นกับชิป M5 ใครเครื่องเดิมอยู่ดีๆ เริ่มช้า ต้องเปลี่ยน
รีวิว POCO F8 Pro ที่สุดแห่งขุมพลัง Snapdragon 8 Elite ผสานพลังเสียง Bose ในบอดี้กระจกชิ้นเดียวที...
รีวิว TCL 60NXTPAPER สัมผัสความต่างของจอกระดาษ นวัตกรรมเพื่อดวงตาที่มาพร้อมความคุ้มค่า ในงบ 5,999...
สมาร์ตโฟนรุ่นเล็กสเปคแรง สำหรับนักเรียน-นักศึกษา เริ่มต้นแค่ 3,000 บาท ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
realme P4x สมาร์ตโฟนชิปเซ็ต Dimensity 7400 หน้าจอ 144Hz แบตเตอรี่ 7000mAh
HONOR Watch 5 Ultra วางขายในไทย สมาร์ตวอทช์ผลิตจากไทเทเนียม รองรับโหมด Freedive ลึก 40 เมตร
OnePlus Ace 6T ประเดิมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 5 แบตเตอรี่ใหญ่มาก 8300mAh
realme Watch 5 สมาร์ตวอทช์ดีไซน์คุ้นๆ เหมือนค่ายผลไม้ แต่ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว