เมื่อกล้องบน iPhone 5 Vs. iPhone 4S, Galaxy S3, One X, PureView 808 ในสภาวะแวดล้อมแสงน้อย

ตามกระแสเรียกร้องที่หลายๆ คนถามหาว่า iPhone 5 ที่มาพร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซลนั้นต่างจาก iPhone 4S อย่างไร และจะมีอะไรไปสู้กับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น ล่าสุดเว็บไซต์ต่างประเทศได้ทดสอบกล้อง iPhone 5 เทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์เนมในตลาดให้ดูกันชัดๆ เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างน้อย (low-light)

วิดีโอเปรียบเทียบการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย (low-light) ระหว่าง iPhone 5, iPhone 4S

การทดสอบครั้งนี้มีผู้ท้าชิงหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น iPhone 5, iPhone 4S, Samsung Galaxy S III, HTC One X, Nokia 808 PureView และกล้อง CANON S100

การเปรียบเทียบกล้องครั้งนี้ตัดสินด้วยคุณภาพของภาพที่ได้ (โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม และโปรดตรวจสอบสินค้าด้วยตัวเอง ณ จุดขายทุกครั้ง)

การออกแบบและประสิทธิภาพการทำงาน

นอกเหนือจากฟีเจอร์หลักๆ แล้ว ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้าในในกล้องของ iPhone บน iOS 6 คือการถ่ายภาพพาโนราม่า แต่อินเทอร์เฟชของกล้องก็ยังคงคล้ายของเดิม โดยกล้องทุกตัวที่ใช้ทดสอบมีการตั้งค่าแสงต่ำและใช้เทคนิคปรับปรุงคุณภาพของภาพรวมถึงลดจุดรบกวน (noise), ลดความเพี้ยน (distortion)

ชิปประมวลผล A6 บน iPhone 5 เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่าง เมื่อเทียบกับชิป A5 ใน iPhone 4S โดยโฟกัสของกล้องถ่ายรูปพร้อมชัตเตอร์สามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อกดปุ่มปรับระดับเสียงซ้ำๆ เพื่อปล่อยชัตเตอร์จะเกิดการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพของรูปที่ได้นั่นแหละครับ

คุณภาพของภาพถ่าย

iPhone 5 Vs. iPhone 4S

จากที่ได้ยินมาในงานเปิดตัว ทั้ง iPhone 5 และ iPhone 4S ต่างก็มีกล้อง 8 ล้านพิกเซลเกือบๆ จะเหมือนกัน แต่ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของภาพที่ได้ โดยภาพจาก iPhone 4S ถูกตั้งค่าความไวแสงสูงสุดไว้ที่ ISO 800 ซึ่งก็ไม่เพียงพอที่จะได้รับค่าแสงอย่างถูกต้องในที่มืดโดยไม่เปิดแฟลช แต่ iPhone 5 นั้นต่างออกไป ซึ่งกล้องบน iPhone 5 สามารถตั้งค่า ISO ได้ถึง 3200 ซึ่งจะช่วยถ่ายภาพในที่มืดได้ดีกว่า iPhone 4S

ในทำนองเดียวกับ iPhone 5 ก็มีกล้องที่ดีสำหรับถ่ายภาพในตอนกลางวัน (สังเกตจากความคมชัด)

iPhone 5 Vs. Samsung Galaxy S III

 เมื่อนำไปถ่ายภาพในที่มืด iPhone 5 ยังแพ้กล้องสมาร์ทโฟน high-end รุ่นอื่นๆ ที่นำมาทดสอบ เช่น Samsung Galaxy S III ในโหมดแสงน้อยสามารถทำงานได้ดีกว่า iPhone 5 อย่างเห็นได้ชัด โดย Samsung Galaxy S III ให้ภาพที่คมชัดกว่า, มีจุดรบกวนน้อยกว่า และให้สีขาวที่ถูกต้องมากกว่า แต่โทนสีของดอกไม้จะออกไปทางม่วงมากกว่าชมพูอมม่วงปกติ

ภาพถ่ายตอนกลางวัน iPhone 5 ดูคมกว่า Samsung Galaxy S III เล็กน้อย โดยมีช่วงไดนามิกที่ดีกว่านิดหน่อย

iPhone 5 Vs. HTC One X

คล้ายกับกรณีของ Samsung Galaxy S III โดย HTC One X ทำได้ดีกว่า iPhone 5 ในเรื่องของสีดอกไม้ แต่ในมุมมองภาพรวมๆ จุดรบกวนบนภาพจาก HTC One X ที่ออกมาดูไม่ค่อยสวยงามเท่าไร 

ภาพถ่ายตอนกลางวัน HTC One X มีความบิดเบือน (distort) และช่วงไดนามิกยังไม่สมบูรณ์เท่ากับ iPhone 5

iPhone 5 Vs. Nokia 808 PureView

Nokia 808 PureView ได้ชื่อว่าเป็นกล้องบนมือถือที่ดีที่สุดในเวลานี้ ด้วยความละเอียด 41 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ 1/1.2 นิ้ว เมื่อปรับให้อยู่ในโหมดแสงน้อย จะไม่ถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงที่สุด แต่จะทดแทนด้วยเทคนิคลดจุดรบกวนอันน่าทึ่ง ผลที่ได้คือภาพออกมาคมชัดและสวยงามกว่า iPhone 5 อย่างเห็นได้ชัด

และในการเปรียบเทียบภาพถ่ายตอนกลางวัน กล้องบน Nokia 808 PureView สามารถทำได้ดีกว่าในการถ่ายภาพปกติตอนกลางวัน หรือแม้ในขณะซูมก็ยังเก็บรายละเอียดได้ดี

iPhone 5 Vs. Canon S100

กล้อง Canon S100 สามารถตั้งค่าถ่ายภาพในที่ๆ มีแสงน้อยได้เป็นอย่างดี ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าทำไมโทรศัพท์ iPhone 5 ยังดูห่างไกลจากคำว่า "กล้องคุณภาพสูง" เพราะในแง่ของคุณภาพที่ได้จาก Canon S100 เมื่อเทียบกับทุกภาพที่อยู่ในการทดสอบครั้งนี้ เรียกได้ว่ากล้องโปรนั้น "ชัดกว่า" , "แทบจะไม่มีจุดรบกวน" แต่ข้อแตกต่างกับกล้องบนสมาร์ทโฟนทั่วไปน่าจะเป็นเรื่องของความคล่องตัวในการพกพานั่นเอง

ในขณะที่ถ่ายภาพตอนกลางวันกล้องของ iPhone 5 มีความคมชัดกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีความบิดเบือนของภาพมากกว่าเช่นกัน

Video

เช่นเดียวกับภาพถ่ายโดย iPhone 5 สามารถบันทึกวิดีโอได้ดีกว่า iPhone 4S ซึ่งดูความแตกต่างได้ชัดเจนมากเมื่อครอปตัดเข้าไปใกล้ๆ (ดูวิดีโอได้ ที่นี่)

สรุป

กล้องบน iPhone 5 เป็นการพัฒนาที่สำคัญจาก iPhone 4S ทั้งในแง่ของคุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอ ซึ่งเมื่อลองนำไปเทียบกับ Samsung Galaxy S III นั้นทาง iPhone 5 ยังต้องนำไปปรับปรุงอีกเยอะ ไม่ว่าจะเรื่องของการตั้งค่า, การถ่ายในบริเวณที่มีแสงน้อย แต่ก็สามารถทำได้ดีในการถ่ายภาพทั่วไป อย่างไรก็ตามควรทดสอบด้วยตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ และหวังว่าสักวันหนึ่ง Apple จะหาทางผลิตกล้องบนสมาร์ทโฟนให้ออกมาดีเท่า Nokia 808 PureView หรือ Canon S100 .....

ดูรายละเอียดภาพแบบเต็มๆ ได้ ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Infinix GT 30 หน้าจอ AMOLED 1.5K ความลื่นไหล 144Hz ปุ่มสัมผัส GT Trigger ควบคุมเกมได้แม่นยำ
• 
  วิธีปลดล็อค Google บนสมาร์ตโฟน HUAWEI ทำได้ง่ายๆ ในไม่กี่นาที

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่